8 วันแรกเดือนแห่งความรัก ต่างชาติเทขายหุ้นไทยจุกๆ 1.4 หมื่นลบ.
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ กรรมการผู้จัดการบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เมอร์ชั่นพาร์ทเนอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีย่อตัวลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจากข้อมูลนับตั้งแต่วันที่ 1-8 กุมภาพันธ์ 2566 นักลงทุนต่างประเทศ ขายหุ้นไทยออกแล้วกว่า 14,000.73 ล้านบาท ซึ่งมองว่าไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะตอนนี้หุ้นไทยอยู่ในระดับที่น่าขายทำกำไรในหลายตัวแล้ว บวกกับตอนนี้เป็นช่วงทำมุมมองแนวโน้มผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไทย ที่ดูแล้วไม่ได้น่าตื่นเต้นมากเท่าที่ควร แม้ไม่ได้แย่หรือไม่ได้ดีก็ตาม ทำให้นักลงทุนต่างชาติขายทำกำไรออกมาต่อเนื่อง
“เปิดปีใหม่ 2566 ในช่วงสัปดาห์แรกของปี มีการเล่นประเด็นจีนเปิดประเทศอีกครั้ง และการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ทำให้ดัชนีหุ้นจึงปรับตัวขึ้นค่อนข้างสูงแล้ว เมื่อถึงจังหวะที่ผลตอบแทนดีแล้ว ก็ทำการขายออกมา บวกกับเกิดความไม่แน่นอนในการเคลื่อนไหวของเม็ดเงินการลงทุนของสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก อาทิ ตลาดหุ้นสหรัฐและจีน มีความผันผวนมากขึ้น ดัชนีเหวี่ยงตัวมากกว่าเดิม ทำให้ตลาดหุ้นไทยได้รับบรรยากาศเชิงลบนี้ไปด้วย ภาพรวมจึงดูไม่ค่อยสดใสมากนัก” นายประกิต กล่าว
นายประกิต กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยเริ่มปรับขึ้นได้ยาก ตั้งแต่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับขึ้นดอกเบี้ยเมื่อวันที่ 25 มกราคม ที่ผ่านมา และมีการส่งสัญญาณในการปรับขึ้นอีก ทำให้มูลค่าพื้นฐานตลาดหุ้นไทยดูแคบมากขึ้น เพราะเมื่อมีการขึ้นดอกเบี้ย ความน่าสนใจของตลาดตราสารหนี้จะมีสูงขึ้น เมื่อเทียบกับตลาดหุ้นด้วย เพราะแนวโน้มผลประกอบการที่ทำออกมาก็ไม่ได้ดูดีมากนัก แต่ตอนนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับลดลงมาในระดับที่น่าสนใจแล้ว เคลื่อนไหวอยู่ระดับ 1,650 จุด มีมูลค่าหุ้น (แวลูเอชั่น) ที่น่าสนใจ จึงเห็นแรงซื้อคืนบ้าง และมีหุ้นกว่า 40 บริษัทที่ปรับลดลงเกินเส้นค่าเฉลี่ย 20 วัน สะท้อนถึงการปรับลงลึกเกินไป ทำให้มีโอกาสในการดีดตัวขึ้น (รีบาวด์) กลับคืนได้
นายประกิต กล่าวว่า ทิศทางเศรษฐกิจไทยที่กำลังฟื้นตัวขึ้นมาในตอนนี้ ต่อให้ผลประกอบการออกมาแล้วไม่ได้ดูดีมากนัก แต่มองว่าเมื่อเปิดประเทศมากขึ้น จีนกลับมา ภาคการท่องเที่ยวไทยฟื้นตัว ทำให้ตลาดหุ้นไทยไม่น่าจะปรับลดลงต่ำกว่านี้แล้ว ยังมีโอกาสฟื้นตัวได้ การขายของนักลงทุนต่างชาติ เป็นเพียงการโยกย้ายเม็ดเงิน ไม่ได้แปลกมากนัก ซึ่งมองว่ายังไม่ได้เป็นจุดที่ต่างชาติจะขายหุ้นไทยต่อเนื่องแบบนานๆ เป็นปัจจัยระยะสั้นเท่านั้น โดยให้กรอบล่างที่ระดับ 1,650 จุด กรอบบนที่ระดับ 1,695 จุด ซึ่งถือเป็นบริเวณที่ยังเหนื่อยหากจะผ่านไปด้วย
