“อนันดา” ผนึกบีทีเอสขยายไลน์ธุรกิจใหม่ ลุยโรดโชว์ดึงต่างชาติ ช้อปคอนโดพร้อมอยู่ 4.5 หมื่นล้าน
เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ นายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2566 เป็นปีแห่งโอกาส เริ่มเห็นสัญญาณบวกต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2565 ตามสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับปัจจัยบวกจากการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องกลับมาคึกคักหลังเปิดประเทศ มีต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะจีนที่ต้องการซื้อคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ ซึ่งอนันดามีโครงการพร้อมอยู่พร้อมโอนในทำเลติดรถไฟฟ้า 30 โครงการ มูลค่า 45,000 ล้านบาท ครบทุกเซ็กเมนต์รองรับดีมานด์ต่างชาติ พร้อมมองหาโอกาสทางธุรกิจแบรนด์เดดเรสซิเดนซ์หรือการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยร่วมกับแบรนด์โรงแรมระดับโลก โดยอนันดาจะจับมือกับพันธมิตรระดับโลกพัฒนาโครงการระดับซุปเปอร์อัลตราลักชัวรี่บนถนนสุขุมวิท เจาะกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ จากก่อนหน้านี้เคยร่วมกับดุสิตธานี ส่วนธุรกิจเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ปีนี้มั่นใจจะสร้างรายได้ประจำต่อเนื่องหลังเปิดเต็มรูปแบบทั้ง 5 โครงการ ได้แก่ ซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9, แอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก, แอสคอทท์ เอ็มบาสซี สาทร, ไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก และซัมเมอร์เซ็ต พัทยา
“ปีนี้เราไม่ได้มองธุรกิจอสังหาฯอย่างเดียว ยังมีธุรกิจใหม่โดยร่วมกับ บมจ. แรบบิท โฮลดิ้งส์ บริหารและพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสสุขุมวิท 38 มีคอนโดมิเนียม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์และฟู้ด มูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท และธุรกิจเทคดิจิทัล ผลิตหลักสูตรนักวิทยาศาสตร์ด้านข้อมูลซึ่งร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแล้ว จะขยายไปยังมหาวิทยาลัยอื่นๆ” นายชานนท์กล่าว
นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้อนันดาจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ มีรายได้และกำไรเติบโตแข็งแกร่งในทุกธุรกิจ ซึ่งมีสินค้าพร้อมอยู่ 45,000 ล้านบาท รองรับการกลับมาของตลาดอสังหาฯ และดีมานด์ลูกค้าในประเทศและต่างชาติ แบ่งเป็นโครงการพร้อมอยู่ มูลค่า 34,880 ล้านบาท โครงการจะสร้างเสร็จในปีนี้มูลค่า 10,012 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 18,024 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% ซึ่งปีนี้มีคอนโดมิเนียม 6 โครงการจะปิดการขาย เช่น แอซตัน อโศก มูลค่า 6,000 ล้านบาท ส่วนยอดรับรู้รายได้อยู่ที่ 14,500 ล้านบาท เติบโต 20% เป็นคอนโดมิเนียม 12,296 ล้านบาท แนวราบ 2,208 ล้านบาท สและกำไรปีนี้จะอยู่ที่หลัก 100 ล้านบาท
“ทั้งนี้เราจะนำโครงการพร้อมอยู่จัดคาราวาน จัดกิจกรรมโรดโชว์ทั้งในประเทศและลูกค้าต่างชาติ ซึ่งเมื่อเดือนมกราคมได้จัดโรดโชว์ที่ฮ่องกงและเมียนมาไปแล้ว ผลตอบรับดี มียอดขายเดือนมกราคมแล้ว 2,400 ล้านบาท ในนี้มียอดขายต่างชาติแล้ว 1,658 ล้านบาท จากเป้าทั้งปี 4,500 ล้านบาท ซึ่งจีนเปิดประเทศจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น ปัจจุบันเรามีคอนโดเป็นโควต้าต่างชาติอยู่ 22,836 ล้านบาท มีเอเยนต์กว่า 224 ราย และฟรีแลนซ์อีก 25 ราย กระจายอยู่หลายประเทศ ซึ่งลูกค้าหลังเป็นจีน ฮ่องกง ไต้หวัน เมียนมา เขมร เราจับลูกค้าเรียลดีมานด์ไม่เน้นลูกค้าสีเทา” นายประเสริฐกล่าว
นายประเสริฐกล่าวว่า สำหรับแผนลงทุนใหม่ปีนี้มีเปิด 10 โครงการ มูลค่ารวม 21,200 ล้านบาท และเป็นการร่วมทุนทั้งหมด แบ่งเป็นแนวราบ 4 โครงการ มูลค่า 7,200 ล้านบาท คอนโดมิเนียม 4 โครงการ มูลค่า 10,000 ล้านบาท และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ 2 โครงการ มูลค่า 4,000 ล้านบาท โดยมี 2 โครงการเป็นแฟลกชิพ มูลค่ารวมกว่า 14,600 ล้านบาท คือ โครงการแบรนด์เดดเรสซิเดนซ์สุขุมวิท 38 มูลค่า 6,500 ล้านบาท มีราคาขายต่อตารางเมตรสูงสุดระดับราคา 150-300 ล้านบาท หรือเริ่มต้น 250,000 บาทต่อตารางเมตร และโครงการไอดีโอ พหล-สะพานควาย คอนโดติดรถไฟฟ้าบีทีเอสสะพานควาย มูลค่าโครงการ 8,100 ล้านบาท สูงสุดที่เคยสร้างมา ราคาขายเริ่มต้น 100,000 บาทต่อตารางเมตร ทั้ง 2 โครงการจะเปิดไตรมาส 4 ของปีนี้
