ค่าบาทแกว่งป่วนส่งออก พ่อค้าข้าววอนรัฐคุมให้นิ่งที่ 34-35 บาท/ดอลล์ ชี้ส่งออกข้าวปี’66 ทรงตัว 7.5 ล้านตัน

ค่าบาทแกว่งป่วนส่งออก พ่อค้าข้าววอนรัฐคุมให้นิ่งที่ 34-35 บาท/ดอลล์ ชี้ส่งออกข้าวปี’66 ทรงตัว 7.5 ล้านตัน

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า จากข้อมูลกระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา (USDA) ประเมินปริมาณผลผลิตและการบริโภคข้าวของโลก ปี 2566 พบว่าลดลงต่อเนื่องปีที่ 5 โดยผลผลิตรวมข้าวโลกอยู่ที่ 503 ล้านตัน ลดลง 2.3% จากปีก่อน การบริโภครวมของโลกคาดไว้ 517.2 ล้านตัน ลดลง 0.5% ประเทศส่งออกไปโลกสำคัญอันดับแรกคือ อินเดีย คาดส่งออก 21.50 ล้านตัน ลดลง 3% ไทย 8.20 ล้านตัน เพิ่ม 6.8% และเวียดนาม 6.80 ล้านตัน ลดลง 4.2% ส่วนประเทศนำเข้าข้าวหลักคือ จีน คาดไว้ 5.20 ล้านตัน ลดลง 15.6% ฟิลิปปินส์ 3.60 ล้านตัน ลดลง 2.7% ไนจีเรีย 2.20 ล้านตัน ลดลง 8.3% โดยสมาคมฯประเมินปี 2566 ไทยจะส่งออกข้าว 7.5 ล้านตัน มูลค่า 3,800 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 138,000 ล้านบาท ใกล้เคียงปี 2565 ที่ส่งออกได้ 7.7 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 22%

ร.ต.ท.เจริญกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ ปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกข้าวไทย ได้แก่ 1.เสถียรภาพของค่าเงินบาท ผันผวนเร็ว เจรจาซื้อขายยุ่งยากขึ้น เพราะเป็นระบบขายเชื่อ การที่ค่าเงินแกว่งเร็วกระทบต่อกำหนดราคา ส่งมอบและการชำระเงิน เพราะทุก 1 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มีผลต่อราคาข้าวส่งออกขึ้นหรือลง 15-30 เหรียญสหรัฐต่อตัน ตามชนิดข้าว 2.ผลผลิตข้าวไทย เชื่อว่าปีนี้ไม่เจอภาวะแล้ง และผลผลิตข้าวเปลือกนาปรังนาปีน่าจะได้ 31-32 ล้านตัน แปรเป็นข้าวสารได้ประมาณ 20-22 ล้านตัน ส่วนนี้บริโภคในประเทศ 12 ล้านตัน ที่เหลือส่งออกและสต๊อก

3.ทิศทางการบริโภคและนำเข้าข้าวโลก มีทิศทางลดลงและพึ่งพาในประเทศมากขึ้น 4.นโยบายข้าวของประเทศส่งออกสำคัญ เช่น อินเดีย ลดการแจกข้าวประชาชนเพื่อช่วยเหลือช่วงโควิดลดลง ทำให้ข้าวที่ประชาชนนำออกมาขายให้ผู้ส่งออกลดลง ส่วนเวียดนาม การนำเข้าข้าวเปลือกจากกัมพูชาน่าจะลดลง ทำให้ 2 ประเทศคู่แข่งสำคัญแนวโน้มปริมาณเพื่อส่งออกลดลง บางส่วนจะหันมาซื้อไทยเพิ่มขึ้น ซึ่งแข่งขันได้ไหมอยู่ที่ค่าเงินบาท หากแข็งค่อนข้างยาก ส่วนที่อยากเสนอรัฐบาลใหม่ คือเร่งพัฒนาข้าวที่ตลาดโลกต้องการ เช่น ข้าวพื้นนุ่ม ที่มีเวียดนามครองตลาดโลกในส่วนนี้แล้ว

“ค่าบาทผันผวนขึ้นลงเร็ว สร้างความยุ่งยากต่อการส่งออกสินค้าไทย ไม่แค่ข้าว เกษตรทั้งระบบเหมือนกัน ก่อนหน้านี้บาทอ่อนหลุด 38 บาทต่อเหรียญ เพียงไม่กี่เดือนกลับมาแข็งแตะ 31-32 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ตอนนี้อ่อนลงอยู่ที่กว่า 33 บาท ไม่รู้ว่าจะอ่อนไปอีกแค่ไหน ซึ่งเอกชนไม่ได้มองว่าต้องอ่อน แต่อยากให้ค่าเงินนิ่ง และเงินบาทเหมาะสมตอนนี้ 34-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ” ร.ต.ท.เจริญกล่าว

Advertisement

นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวต่อว่า การส่งออกข้าวจะดีกว่าเป้า 7.5 ล้านตัน เหมือนที่ USDA ประเมินไว้ 8.20 ล้านตันหรือไม่ ต้องดูสถานการณ์อีก 2-3 เดือนจากนี้ก่อน เพราะค่าเงินผันผวนมาก แต่คาดว่าทิศทางบาทอ่อน ดูจากหลังตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐยังสูง ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะยังคงนโยบายขึ้นดอกเบี้ยอีก 2-3 ครั้งในปีนี้ เพื่อกดเงินเฟ้อ ทำให้เงินสหรัฐแข็งแต่บาทอ่อน อีกเรื่องที่ต้องติดตามคือสต๊อกข้าวรายประเทศที่มีการนำเข้ามากกว่าปกติช่วงโควิดจะหมดลงและเริ่มนำเข้าอีกครั้งช่วงใด สังเกตได้จากการส่งออกข้าวเดือนมกราคม 2566 ส่งได้ 706,380 ตัน และ ช่วง 1-13 กุมภาพันธ์ 2566 ส่งออก 281,110 ตัน รวม 43 วันของปีนี้ ส่งออก 987,491 ตัน ลดลง 12.5% เทียบปีก่อน ซึ่งปกติต้นปีจะส่งออกได้เกิน 1 ล้านตันแล้ว

นายสมเกียรติ มรรคยาธร เลขาธิการสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า สำหรับราคาข้าวในประเทศ ข้าวขาวมีโอกาสถูกลงบ้าง เพราะผลผลิตนาปรังจะเริ่มออกสู่ตลาดแล้ว และการแข่งขันข้าวถุงในไทยสูง ส่วนราคาข้าวหอมมะลิราคาจะทรงตัว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image