ส่งออกไทยโดนเวียดนามทุบ หลังชิง FTA 15 ฉบับลุยตลาดใหญ่-ดึงนักลงทุนตั้งถิ่นการค้า
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย กล่าวในงาน Economic Outlook Thailand Forecast ว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้วิเคราะห์ว่าปี 2566 การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะโตได้ที่ระดับ 3.7% ขยายตัวมากกว่าปี 2565 ที่ระดับ 3.2% หลังภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่คาดการณ์ว่าจะเข้ามาในปีนี้ถึง 25.5-30 ล้านคน
อย่างไรก็ตาม การส่งออกจะหดตัวเล็กน้อยคาดว่าจะติดลบที่ 0.5% และการนำเข้าติดลบ 3.8% แต่สิ่งที่ดีขึ้นในเรื่องของดุลบัญชีเดินสะพัดที่ปี 2565 ติดลบ 16,000 กว่าล้านเหรียญสหรัฐ แต่ปี 2566 ได้อานิสงส์จากภาคการท่องเที่ยว รวมถึงค่าขนส่งลดลงเป็นการลดค่าใช้จ่ายกับต่างประเทศ
“เศรษฐกิจไทยมีอุปสรรคระยะยาวจากการส่งออกสินค้า หากดูที่ส่วนแบ่งการตลาด (มาร์เก็ตแชร์) เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศคู่ค้าคู่แข่งทั่วโลก ไทยมีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ที่ 1.4% และเริ่มปรับตัวลดลง ขณะที่เวียดนามปรับตัวดีขึ้นที่ 1.8% หลังนักลงทุนย้ายฐานการผลิตจากไทย เนื่องจากเกิดเหตุน้ำท่วมใหญ่ปี 2554”นายกอบสิทธิ์ กล่าว
นายกอบสิทธิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ เนื่องจากไทยลงนามการค้าเสรี (เอฟทีเอ) เช่น ไทยมีเอฟทีเอทั้งหมด 15 ฉบับ แต่ได้ทำร่วมกับประเทศที่มีขนาดเล็ก ทำให้โดยรวมการทำเอฟทีเอของไทยครอบคลุมจีดีพี 35 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งน้อยกว่าเวียดนามที่ทำเอฟทีเอกับประเทศคู่ค้าจำนวน 15 ฉบับ แต่ทำร่วมกับประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ครอบคลุมจีดีพี 50.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
“หากไทยอยากขยายส่วนแบ่งการตลาดจากการส่งออก ควรเริ่มต้นจากการเจรจาทำเอฟทีเอ และลงนามความร่วมมือกับประเทศขนาดใหญ่ให้ได้ หากทำได้จะนำไปสู่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (เอฟดีไอ)”นายกอบสิทธิ์ กล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนที่ลงทุน หรือมีการลงทุนในเวียดนามแล้ว เมื่อมีการส่งสินค้าไปประเทศที่ 3 จะไม่เจออุปสรรคในเรื่องกำแพงภาษี หากเปรียบเทียบกับไทยจะเจอกำแพงภาษีและไทยมีคู่ค้าที่เป็นเศรษฐกิจขนาดเล็กจึงเป็นการเสียเปรียบเรื่องการค้า เมื่อเทียบกับประเทศเวียดนาม
