สู้กลับโจร! ‘ส.ธนาคารไทย’ เตรียมคลอดระบบยืนยันตน ‘Biometrics’ ลดภัยแอพพ์ดูดเงิน
เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นายยศ กิมสวัสดิ์ ประธานสำนักงานระบบการชำระเงิน สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า สำหรับภัยออนไลน์เกิดขึ้นจากแอพพ์ดูดเงิน สร้างความเสียหายต่อทรัพย์สินประชาชนมากขึ้น ในส่วนของภาคการเงิน โดยสมาคมธนาคารไทย และธนาคารสมาชิก ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เตรียมออกมาตรการป้องกันเพิ่มเติม เพื่อป้องกันและควบคุมแอพพลิเคชั่นโมบายแบงกิ้ง กรณีมือถือมีการเปิดใช้งาน Accessibility Service อาจทำให้มิจฉาชีพเข้าควบคุมระบบโทรศัพท์ได้
“โดยจะยกระดับด้วยการเพิ่มระบบการพิสูจน์ตัวตน (Authentication) ด้วยเทคโนโลยีที่ใช้ยืนยัน/พิสูจน์ตัวตนบุคคล ที่เป็นลักษณะทางกายภาพ (Biometrics Comparison) เช่น ลายนิ้วมือ รูม่านตา และโครงสร้างใบหน้า หรือพฤติกรรมเฉพาะของแต่ละบุคคล คาดว่าจะมีการนำมาใช้ภายใน 2 อาทิตย์นี้ จะนำร่องจากธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ที่มีความพร้อมปรับระบบดังกล่าว” นายยศ กล่าว
นายยศ กล่าวว่า กระบวนการยืนยันตัวตนด้วยการพิสูจน์ตัวตนจะเป็นระบบที่ช่วยลดผลกระทบต่อประชาชนได้ กรณีที่พลาดโดนมิจฉาชีพหลอก และมิจฉาชีพพยายามจะนำเงินออกจากบัญชี อย่างน้อยเงินที่ถูกนำออกจากระบบไปจะน้อยกว่า เนื่องจากการทำระบบยืนยันตัวตนดังกล่าว จะมีการเงื่อนไขการรับบริการ เช่น การโอนเงินจำนวนมาก ทั้งจำนวนเงิน และความถี่ รวมถึงการปรับเพิ่มวงเงินต่อวัน โดยกำหนดตามพฤติกรรมหรือระดับความเสี่ยงของลูกค้าของธนาคาร
ตัวอย่าง การเพิ่มวงเงิน โดยผู้ใช้บริการต้องกำหนดจำนวนเงินการทำธุรกรรมต่อวัน เช่น ลูกค้ามีเงินในบัญชี 40,000-50,000 บาท ปกติมีการทำธุรกรรมจำนวนเงินไม่เกิน 2,000-5,000 บาท หรือใช้มากสุดที่ 10,000 บาทต่อวัน ดังนั้น ลูกค้าอาจตั้งค่าวงเงินอย่างต่ำไม่เกิน 10,000 บาท จากนั้นระบบจะตั้งค่าข้อมูลดังกล่าว โดยให้ลูกค้ายืนยันผ่านการพิสูจน์ตัวตนบุคคล (Biometrics Comparison) หรือการใช้ใบหน้าลูกค้าเพื่อยืนยันในขั้นตอนสุดท้าย ทั้งนี้ ลูกค้าต้องอนุญาตให้ธนาคารมีรูปภาพของตนเองด้วย
“หากมิจฉาชีพเข้าถึงระบบแอพพ์แล้ว จะสามารถโอนเงินออกจากบัญชีได้ไม่เกินวงเงินที่ลูกค้ากำหนด แม้จะเข้าไปแก้ไขการตั้งค่า แต่ข้อมูลไม่สามารถเปลี่ยนได้ เนื่องจากต้องใช้การยืนยันผ่านใบหน้าเท่านั้น”นายยศ กล่าว
ทั้งนี้ กรณีที่ประชาชนได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกแล้ว ธนาคารจะพิจารณาการช่วยเหลือเป็นรายกรณี อย่างไรก็ตาม ความเสียหายจากแอพพ์ดูดเงินไม่ได้เกิดขึ้นจากระบบแอพพ์โมบายแบงกกิ้งของธนาคาร ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับความรับผิดชอบของธนาคาร ซึ่งเป็นวิธีการตามกฎหมายอยู่แล้ว
ข่าวน่าสนใจอื่น:
- ‘โรม’ แฉยับ รทสช.พรรคใหม่ประยุทธ์ ตั้งอยู่บนที่ดิน ‘ส.ว.ทรงเอ’ นักธุรกิจร่วมทุนพ่อค้ายาพม่า
- ‘เลิศศักดิ์’ ปูดคนใน ป.ป.ท.แฉ ‘วิษณุ’ ชอบเรียกรับสูทผ้าไหมมูลค่าหลักหมื่นถึงแสน
- หัวเราะทำไม! ‘บิ๊กตู่’ เกรี้ยวกราด ฉุนถูกหัวเราะใส่ หลังบอก “น้ำท่วมเพราะฝนมันตก ถ้าฝนไม่ตกก็ไม่ท่วม”
- แฟนคลับเสียใจกู้ภัยไปถึง ‘พระเอกนิว’ ไม่มีชีพจรแล้ว
- ดีเดย์ 25-26 ก.พ.นี้ ‘จ๊อดแฟร์รัชดา’ เปิดจองพื้นที่แล้ว เช่ายาว 20 ปี ล็อกละ 3 ล้าน