ปีนี้รถไฟทางคู่ สร้างเสร็จครบ 7 สาย หลังใช้เวลา 7 ปี ลุ้นอีก 6 ปีได้นั่งถึงเชียงของ นครพนม
เป้าหมายของรัฐบาลในการผลักดัน แผนพัฒนารถไฟทางคู่ทั่วประเทศ ระยะทางรวม 3,157 กิโลเมตร เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่งสินค้าทางถนนสู่การขนส่งทางราง ที่มีต้นทุนต่ำ ลดระยะเวลาการเดินทาง การขนส่ง ยกระดับศักยภาพการขนส่งสินค้าทางรางของประเทศ
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า ด้วยเม็ดเงินการลงทุนค่อนข้างสูง ขั้นตอนต่างๆ ทำให้การเดินหน้า จึงไม่เป็นไปตามแผน
จากเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 หรือ 7 ปีที่แล้ว รัฐบาลเริ่มนับหนึ่งโครงการรถไฟทางคู่ ระยะเร่งด่วน จำนวน 7 เส้นทาง ระยะทางรวม 993 กิโลเมตร วงเงิน 113,660 ล้านบาท
ขณะนี้ก่อสร้างแล้วเสร็จ 3 เส้นทาง ได้แก่ ชุมทางฉะเชิงเทรา-คลองสิบเก้า-แก่งคอย,ชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่นและหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์
อีก 4 เส้นทางอยู่ระหว่างการก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จและเปิดให้บริการภายในปี 2566 ประกอบด้วย
สายมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ สถานะสัญญา 1 ช่วงมาบกะเบา-คลองขนานจิตร คืบหน้า 95.59% ช้ากว่าแผน 4.41% สัญญา 2 ช่วงคลองขนานจิตร-ชุมทางถนนจิระ อยู่ระหว่างปรับปรุงข้อมูลเพื่อเตรียมนำเสนอขออนุมัติดำเนินโครงการ สัญญา 3 งานอุโมงค์รถไฟ คืบหน้า 94.848% ช้ากว่าแผน 5.152%
สายลพบุรี-ปากน้ำโพ สัญญา 1 ช่วงบ้านกลับ-โคกกระเทียม คืบหน้า 81.11% ช้ากว่าแผน 18.89% สัญญา 2 ช่วงท่าแค-ปากน้ำโพ คืบหน้า 75.34% ช้ากว่าแผน 24.66%
สายนครปฐม-หัวหิน สัญญา 1 ช่วงนครปฐม-หนองปลาไหล คืบหน้า 97.150 ช้ากว่าแผน 2.850% สัญญา 2 ช่วงหนองปลาไหล-หัวหิน คืบหน้า 95.166 % ช้ากว่าแผน 4.834%
สายประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร สัญญา 1 ช่วงประจวบคีรีขันธ์-บางสะพานน้อย คืบหน้า 91.037% ช้ากว่าแผน 8.963% สัญญา 2 ช่วงบางสะพานน้อย-ชุมพร คืบหน้า 92.920% ช้ากว่าแผน 7.080 %
นอกจากนี้ ยังเริ่มงานก่อสร้างโครงการรถไฟสายใหม่อีก 2 เส้นทาง เชื่อมการเดินทาง การท่องเที่ยว ภาคเหนือและอีสาน เปิดประตูการค้าชายแดนเชื่อมไทย-อาเซียน-จีน ระยะทางรวม 681 กิโลเมตร วงเงินลงทุน 152,189 ล้านบาท
ประกอบด้วย สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ระยะทาง 323 กิโลเมตร เงินลงทุน 85,343.96 ล้านบาท และบ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ระยะทาง 355 กิโลเมตร เงินลงทุน 66,846.53 ล้านบาท ใช้เวลาสร้าง 6 ปี คาดแล้วเสร็จในปี 2571
ขณะที่ทางคู่เฟส 2 เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติในปีนี้ มีจำนวน 3 เส้นทาง วงเงินรวม 130,134 ล้านบาท ประกอบด้วย ช่วงขอนแก่น-หนองคาย วงเงิน 29,748 ล้านบาท, ช่วงชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี วงเงิน 37,527 ล้านบาทและช่วงปากน้ำโพ-เด่นชัย วงเงิน 62,859 ล้านบาท
