ปั๊มพีทีตีปีก! ยอดขายน้ำมันทุบสถิติ โกยรายได้ 1.79 แสนล้านบาท กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12,008 ล้านบาท
นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2565 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 179,422 ล้านบาท เติบโต 34.1% จากปีก่อน จากธุรกิจ Oil ที่มีปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทาง 5,316 ล้านลิตร เติบโต 5.9% จากปีก่อน นับเป็นปริมาณการจำหน่ายน้ำมันผ่านทุกช่องทางที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และราคาค้าปลีกเฉลี่ยต่อลิตรเพิ่มขึ้น 25.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน มาอยู่ที่ 31.94 บาทต่อลิตร
ขณะที่ ภาพรวมรายได้จากธุรกิจ Non-Oil ยังคงเติบโตต่อเนื่อง มีรายได้รวมอยู่ที่ 9,478 ล้านบาท เติบโต 68.5% จากปี 2564 จากธุรกิจก๊าซ LPG มีปริมาณการจำหน่ายก๊าซ LPG ที่ยังคงสร้างสถิติปริมาณการจำหน่ายที่สูงสุดอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยสิ้นปี 2565 มีปริมาณการจำหน่าย 497 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 62.4% จากปี 2564 และราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 11.48 บาทต่อลิตร เพิ่มขึ้น 17.9% จากปีก่อน รวมถึงธุรกิจร้านกาแฟพันธุ์ไทย ที่มีรายได้จำนวน 805 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 76.3% จากปีก่อน
ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 12,008 ล้านบาท เติบโต 18.5% จากปีก่อน โดยสัดส่วนหลักมาจากธุรกิจ Oil ที่เติบโต 13.1% จากปีก่อน เป็น 9,786 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่เพิ่มขึ้น การปรับราคาค้าปลีกให้สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุนน้ำมันที่สูงขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงส่งผลให้ค่าการตลาดอยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่วนกำไรขั้นต้นในธุรกิจ Non-Oil นั้น เติบโตเช่นเดียวกัน เพิ่มขึ้น 50.1% จากปี 2564 เป็น 2,222 ล้านบาท จากการขยายธุรกิจ Non-Oil อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามในปี 2565 บริษัทฯบริษัทฯ มี EBITDA เท่ากับ 5,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.8% จากปีก่อน ในขณะที่ค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของสถานีบริการและสาขาของธุรกิจ Non-Oil อีกทั้ง บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปาล์มดิบ รวมทั้งการปรับลดสัดส่วนไบโอดีเซล (B100) จาก B7 เป็น B5 ในช่วงระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-ตุลาคม 2565 และปรับเป็น B7 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565 จนถึงมีนาคม 2566 เพื่อบรรเทาภาระค่าครองชีพที่สูงจากวิกฤตราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก จึงส่งผลให้ยังคงรับรู้ส่วนแบ่งขาดทุนจากกิจการร่วมค้า ทำให้กำไรสุทธิในปี 2565 เท่ากับ 953 ล้านบาท ลดลง 6.3% จากปีก่อน
นายพิทักษ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2565 บริษัทฯมีการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งธุรกิจ Oil และธุรกิจ Non-Oil ทำให้สิ้นปี 2565 มีสถานีบริการน้ำมัน PT รวม 2,149 สาขา ส่วนสาขาของธุรกิจ Non-Oil อยู่ที่ 1,526 สาขา แบ่งเป็น สถานีบริการ Auto LPG 231 สาขาร้านจำหน่ายก๊าซ LPG บรรจุถัง (Gas Shop) 253 สาขา ร้านกาแฟพันธุ์ไทย 511 สาขา ร้านคอฟฟี่ เวิลด์ 26 สาขา ร้านสะดวกซื้อ Max Mart 309 สาขา ศูนย์บริการซ่อมแซมและบำรุงรักษารถยนต์ Autobacs 45 สาขา ศูนย์เปลี่ยนถ่ายน้ำมัน Maxnitron Lube Change 52 สาขา จุดพักรถ Max Camp 64 สาขา และสถานีอัดประจุไฟฟ้า (EV Charging) 35 สาขา
ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผล ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยกำหนดให้วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 9 มีนาคม 2566 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 10 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566
อ่านข่าวน่าสนใจ