คาดวิกฤตเงินเฟ้อ-ภัยพิบัติทั่วโลก หนุนนำเข้าข้าว พณ.มั่นใจทั้งปี 7.5 ล้านตัน ชี้เดือนแรกเกินคาดทะลุ 8 แสนตัน
เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า แนวโน้มการส่งออกข้าวปี 2566 ยังสูงต่อเนื่องจากปลายปี 2565 โดยเดือนมกราคมปีนี้ ไทยส่งออกข้าวได้กว่า 8 แสนตัน และมีมูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 75.20% และ 78.76% ตามลำดับ เมื่อเทียบช่วงเดือนมกราคมปีก่อน ถือว่าดีกว่าที่คาดไว้ ปัจจัยหลักจากยอดส่งมอบค้างมาตั้งแต่ปลายปีก่อน เงินบาทอ่อนค่าทำให้ราคาข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้น หลายประเทศเพิ่มนำเข้า โดยเฉพาะอินโดนีเซีย บังกลาเทศ และอิรัก เป็นต้น
“ภัยพิบัติและภาวะอากาศที่แปรปรวนในหลายประเทศ ก็มีผลต่อความต้องการนำเข้าข้าวไทยสูง หลายประเทศมีการเปิดประมูลซื้อข้าว อาทิ ญี่ปุ่น ต้องการเพิ่มนำเข้าข้าวขาว เกาหลีใต้เพิ่มนำเข้าข้าวกล้อง หรืออินโดนีเซียมีความต้องการในประเทศสูง แม้ขยายพื้นที่เพาะปลูกแต่ติดเรื่องขาดแคลนแรงงานเก็บเกี่ยว อีกประเด็นคือ ค่าเงินบาทและความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยน” นายรณรงค์กล่าว
นายรณรงค์กล่าวต่อว่า ส่งออกสินค้าข้าวอินทรีย์ ยังเป็นสินค้าที่ต้องเฝ้าติดตาม เพราะเป็นสินค้าที่พึ่งพาตลาดหลักคือสหรัฐและยุโรป แต่ขณะนี้ตลาดหลักเจอปัญหาเรื่องภาวะเศรษฐกิจและกำลังซื้อในประเทศจากภาวะเงินเฟ้อสูงและราคาสินค้าที่มีราคาสูง จึงคาดการณ์ส่งออกข้าวอินทรีย์ปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนประมาณ 2.1 หมื่นตัน และมูลค่าประมาณ 1 พันล้านบาท โดยแนวโน้มราคาอาจไม่สูงขึ้น ซึ่งปี’65 อยู่ที่ตันละ 1,344 เหรียญสหรัฐ ลดลงจากปี 2564 อยู่ที่ตันละ 1,444 เหรียญสหรัฐ
“คาดว่าในปี 2566 เกษตรอินทรีย์ในยุโรป เช่น เยอรมนี อิตาลี และสหราชอาณาจักร มีทิศทางเติบโต แต่ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดจากผลกระทบของอัตราเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น” นายรณรงค์กล่าว
นายรณรงค์กล่าวต่อว่า แต่อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับสมาคมผู้ส่งออกข้าว ยังคงตัวเลขคาดการณ์ส่งออกทั้งปี 2566 ไว้ที่ 7.5 ล้านตัน เนื่องจากเห็นถึงความต้องการที่สูง จากหลายประเทศเจอปัญหาการเพาะปลูกในประเทศ ทิศทางบาทอ่อนทำให้ราคาข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้น และการผลักดันด้านการจัดกิจกรรมในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งในเดือนมิถุนายนนี้ ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมข้าวโลก ซึ่งเป็นงานจัดทุก 4 ปี
