นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติไตรมาส 2/2566 เป็นช่วงปลายฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ของกลุ่มยุโรป ที่เป็นตลาดระยะไกลแล้ว จึงคาดหวังว่าจะมีตลาดระยะใกล้เข้ามาชดเชย อาทิ อาเซียน อย่างอินเดีย ส่วนจีน แม้เปิดประเทศและอนุญาตให้ทำทัวร์เที่ยวต่างประเทศได้แล้ว แต่เนื่องจากยังติดปัญหาเที่ยวบิน ที่ฟื้นตัวกลับมาได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร โดยนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่า จากข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข พบว่าผลการตรวจ RT-PCR แก่นักท่องเที่ยวจีนก่อนเดินทางกลับประเทศจีน มีผู้ติดเชื้อไม่ถึง 1% ซึ่งคาดหวังว่าทางการจีนจะพิจารณายกเลิกมาตรการนี้ เอื้อต่อกระแสการเดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้น
“ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ททท.ได้จัดโรดโชว์ส่งเสริมการขายที่ประเทศจีน หนึ่งในเมืองที่จัดงานคือนครเซี่ยงไฮ้ ก่อนเกิดโควิด-19 พบว่า เฉพาะการเดินทางจากเซี่ยงไฮ้ มีจำนวนเที่ยวบินกว่า 400 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ พอเกิดการระบาด เหลือเพียง 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เท่านั้น แม้ตอนนี้จะเริ่มกลับมาทำการบิน แต่ก็มีแค่ 95 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ยังห่างไกลจากที่เคยทำการบินไว้ค่อนข้างมาก” นายยุทธศักดิ์ กล่าว
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับทั้งไตรมาสแรกของปี 2566 ททท.คาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาไทยไม่น้อยกว่า 6 ล้านคน หลังจาก 2 เดือนแรก (มกราคม-กุมภาพันธ์) มีจำนวนสะสมแล้ว 4 ล้านคน โดยเฉพาะเดือนมกราคม ที่ผ่านมา มีจำนวน 2,088,832 คน และตั้งแต่วันที่ 1-26 กุมภาพันธ์ มีต่างชาติเที่ยวไทยสะสมจำนวน 1,928,079 คน โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยสูงสุด 5 อันดับแรก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 26 กุมภาพันธ์ 2566 ได้แก่ 1.มาเลเซีย 503,725 คน 2.รัสเซีย 375,812 คน 3.เกาหลีใต้ 316,934 คน 4.จีน 231,858 คน และ 5.อินเดีย 192,192 คน
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า เป้าหมายทั้งปี 2566 ททท.ยังมีรายได้รวมของการท่องเที่ยวไทย อยู่ที่ 2.38 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในกรณีดีที่สุดคาดได้ 25-30 ล้านคน สร้างรายได้ 1.5 ล้านล้านบาท ส่วนตลาดนักท่องเที่ยวไทย ตั้งเป้ามีอย่างน้อย 160 ล้านคน-ครั้ง สร้างรายได้ 8.8 แสนล้านบาท ในช่วงที่ต้องเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันช่วงชิงนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศ
นายยุทธศักดิ์ กล่าวว่า โครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 5 สามารถจองสิทธิโรงแรมที่พักได้ตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคมนี้ และเริ่มเดินทางได้ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม – 30 เมษายน 2566 เนื่องจากสถิติการใช้สิทธิในเฟสก่อนๆ มีผู้ใช้สิทธิเดือนละประมาณ 5 แสนสิทธิ และอยู่ในช่วงปลายโลว์ซีซันของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมถึงตอนนี้หลายประเทศก็เริ่มเปิดประเทศชิงนักท่องเที่ยวไทย อาทิ ฮ่องกง ออกแคมเปญแจกตั๋วเครื่องบินฟรี 5 แสนที่นั่ง ส่วนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้เป็นจุดหมายที่ได้รับความนิยมในช่วงเดือนมีนาคม – เมษายนนี้ ทาง ททท.จึงต้องการดึงคนไทยให้อยู่เที่ยวในประเทศ โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ หลังจากโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยไม่ได้จัดงานสงกรานต์ติดต่อกันถึง 3 ปี ซึ่งขอแนะนำให้ประชาชนที่สนใจรีบจองใช้สิทธิตั้งแต่วันแรกๆ เมื่อเปิดจองได้ เพื่อให้มั่นใจว่าสงกรานต์ปี 2566 จะสามารถเที่ยวไทยได้แบบมีห้องพักที่ถูกใจ ในการเฉลิมฉลองปีใหม่ไทย โดยททท. คาดการณ์ว่าบรรยากาศงานสงกรานต์ปีนี้ น่าจะคึกคักเหมือนกับช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ผ่านมา
นายยุทธศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากการเปิดรับลงทะเบียนของฝั่งประชาชนคนไทย อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไปแล้ว ททท.ยังได้เปิดรับสมัครผู้ประกอบการด้วยที่อาจจะยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการตั้งแต่เฟสที่ผ่านๆ มา ซึ่งต้องแจ้งจำนวนห้องพัก และราคาขายห้องพักแบบต่ำสุดและสูงสุดให้ทราบ โดยยืนยันว่าผู้ประกอบการรายเดิมยังอยู่ร่วมโครงการเหมือนเดิมหมด ไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคา ไม่มีการเปลี่ยนจำนวน เพราะคิดว่าหากให้ผู้ประกอบการเปลี่ยนแปลงราคา ก็จะส่งผลกระทบต่อส่วนที่ประชาชนต้องจ่ายเพิ่มอีก
