‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง รฟม.เร่งศึกษาคำพิพากษาสายสีส้ม ก่อนพิจารณาชงเข้า ครม.

‘ศักดิ์สยาม’ สั่ง รฟม.เร่งศึกษาคำพิพากษาสายสีส้ม ก่อนพิจารณาชงเข้า ครม.

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม ที่กระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า จากกรณีที่ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายกฟ้องคดีที่ ​บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอสซี (ผู้ฟ้องคดี) กับคณะกรรมการคัดเลือก ตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน พ.ศ.2562 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) กับพวกรวม 2 คน (ผู้ถูกฟ้องคดี) แก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผู้ชนะการประเมินเอกสารคัดเลือกเอกชน ในการประกวดราคาครั้งที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) นั้น

ขณะนี้ ได้มอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ดำเนินการคัดลอกสำเนาคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดอย่างเป็นทางการ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป โดยขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีการเสนอร่างสัญญาร่วมลงทุนเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อใด เนื่องจากขณะนี้ทางรฟม.ยังไม่ส่งร่างสัญญามายังกระทรวงฯ ยังต้องรอศึกษารายละเอียดของคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่เกิดขึ้นก่อน

“หลายคนสงสัยว่า เมื่อศาลปกครองสูงสุดได้ยกฟ้องคดีที่มีการเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์แล้ว ทาง รฟม. จะสามารถเซ็นสัญญากับเอกชนที่ผ่านการคัดเลือกในโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ตะวันตก ได้เลยหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ตามขั้นตอนทางฝ่ายกฎหมายของ รฟม.จะต้องเป็นผู้สรุปรายละเอียด ข้อดี ข้อเสีย รวมถึงจะต้องเป็นผู้เสนอความเห็นว่าทางรฟม. จะต้องรอผลการตัดสินของศาลในทุกคดีก่อน หรือผลของคดีครั้งนี้เท่านั้น เสนอมายังฝ่ายกฎหมายของกระทรวงคมนาคม ก่อนเสนอมายังฝ่ายกฎหมายของทีมที่ปรึกษา ช่วยกลั่นกรองอีกครั้ง หลังจากนั้นถึงจะสรุปและตัดสินใจได้ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อให้เกิดความรอบคอบต่อไป” นายศักดิ์สยาม กล่าว

Advertisement

ทั้งนี้ หากมีการยุบสภา แล้วยังอยู่ในช่วงของการรักษาการในตำแหน่งรัฐมนตรีนั้นก็ปฏิบัติตามที่รัฐธรรมนูญให้อำนาจ ซึ่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ข้อมูลว่า อะไรที่เป็นโครงการอยู่ในแผนงานอยู่แล้วสามารถดำเนินการได้ อาทิ โครงการแผนงานปีงบประมาณ 2566 สามารถดำเนินการให้ครบตามกระบวนการได้ ซึ่งฝ่ายกฎหมายจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างละเอียด แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการแล้วทุกอย่างจะฟรีหมดไม่ใช่อย่างนั้น

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนกรณีที่กระทรวงคมนาคมได้ทำหนังสือขอให้นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส่งรายละเอียดหลักฐานข้อมูลว่ามีการโอนเงิน พร้อมบัญชีธนาคารมาให้กระทรวงคมนาคมภายใน 15 วันนั้น ในเรื่องนี้นายชูวิทย์ จะส่งรายละเอียดกลับมาหรือไม่นั้นเป็นสิทธิ์ของนายชูวิทย์ แต่หากไม่ส่งมาให้และครบเวลา 15 วันทางกระทรวงคมนาคมก็จะสรุปเรื่องว่านายชูวิทย์ไม่ประสงค์จะใช้สิทธิ์ร้องตามกฎหมาย ส่วนกระทรวงจะดำเนินการอะไรต่อ หรือจะมีการฟ้องร้องหรือไม่นั้นให้รออีก12 วัน ซึ่งหาก นายชูวิทย์ ส่งหลักฐานมาเกี่ยวกับข้อกล่าวหาดังกล่าว เพราะเป็นเรื่องใหญ่ ก็จะให้ปลัดกระทรวงคมนาคมพิจารณา หากพบว่ามีมูลก็จะตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงตามขั้นตอน เพื่อจะได้จตรวจสอบให้ชัดเจน ดังนั้นขอเรียกร้องให้นายชูวิทย์นำหลักฐานมาแสดงอย่าเก็บไว้ เพราะไม่เช่นนั้นก็จะเป็นผู้ที่ถูกกล่าวหาเอง

ด้าน นายโกสิทธิ์ ประสิทธิ์เวโรจน์ ทนายความผู้รับมอบอำนาจ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสซี กล่าวว่า ภายหลังรับฟังคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในข้อพิพาทเกี่ยวกับการแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผู้ชนะการประเมินเอกสารคัดเลือกเอกชน ในการประกวดราคาครั้งที่ 1 โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์–มีนบุรี (สุวินทวงศ์) นั้น มองว่าการตัดสินคดีในครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวเนื่องกับอีก 2 คดีที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครอง เนื่องจากเป็นคนละประเด็นข้อพิพาทที่ไม่ได้คล้ายคลึงกัน

Advertisement

อย่างไรก็ตาม ข้อพิพาทที่มีการพิจารณาคดีในครั้งนี้ เป็นประเด็นในเรื่องของการกระทำที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ส่อไปในทางไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ข้อพิพาทที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีนั้น จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่อเอื้อประโยชน์รายใดรายหนึ่ง เป็นข้อสังเกตของความผิดปกติของหลักเกณฑ์ ดังนั้นในฐานะตัวแทนของบีทีเอส จึงไม่อยากให้นำผลการตัดสินของศาลแต่ละคดีมารวมกัน หรือนำมาตัดสินชี้ขาดร่วมกัน ทั้งนี้ควรรอการพิจารณาคดีอี่นๆ ที่กำหนดจะเกิดขึ้นหลังจากนี้ด้วย

สำหรับข้อพิพาทที่ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาลปกครอง ปัจจุบันเหลือ 2 คดี ประกอบด้วย 1.การประมูลครั้งที่ 1 คดีหมายเลขดำที่ 580/2564 คดียกเลิกการประมูล ซึ่งศาลปกครองกลางพิพากษาเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 ชี้ว่าการยกเลิกประมูลผลจากการเปลี่ยนหลักเกณฑ์คัดเลือกในครั้งนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และขณะนี้รอศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา และ 2.การประมูลครั้งที่ 2 คดีหมายเลขดำที่ 1646/2565 โดย บีทีเอสซี ฟ้องประเด็นที่มีการกีดกันไม่ให้เข้าร่วมการประมูล ซึ่งเป็นคดีล่าสุดที่ศาลปกครองกลางรับไว้พิจารณา ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนพิจารณา ยังไม่มีกำหนดนัดไต่สวนเพิ่มเติม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image