ส่องรายได้ ‘แกรมมี่’ ปี 65 เพิ่มขึ้น 1.1 พันล้าน ธุรกิจเพลงพุ่ง 67.6% ขายกล่องรับสัญญาณ-สื่อลดลง
หลังธุรกิจถูกดิสรัปชัน โลกธุรกิจที่ไม่เหมือนเดิมทำให้ค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในเมืองไทย “แกรมมี่” ต้องปรับตัวในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจนถึงปี 2565
พลิกดูผลประกอบการประจำปีในปีที่ผ่านมา บริษัทจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) จากผลบวกการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว การบริโภคฟื้นตัวและกิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น
ส่งผลให้รายได้รวมเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 5,319.7 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 1,104.3 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 26.2% มีกำไรขั้นต้น 2,041.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 382.5 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 23.1% มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น 166.4 ล้านบาท ลดลง 330.7 ล้านบาท หรือลดลง 66.5% และงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2565
เมื่อแยกรายธุรกิจแล้ว รายได้หลักยังเป็นธุรกิจเพลง มีรายได้ 3,043.1 ล้านบาท คิดเป็น 58.3% ของรายได้ทั้งหมด เพิ่มขึ้น 1,227.0 ล้านบาท หรือ 67.6% ส่วนใหญ่มาจากรายได้ธุรกิจบริหารศิลปินและธุรกิจโชว์บิซ ที่เติบโตถึง 247% ในปีนี้รับรู้รายได้จากการจัดคอนสิร์ต 12 งาน
รองลงมาธุรกิจโฮมช้อปปิ้ง มีรายได้ 1,364.6 ล้านบาท คิดเป็น 26.1% เพิ่มขึ้น 48 ล้านบาท หรือ 3.6% แม้อุตสาหกรรมโฮมช้อปปิ้งและอีคอมเมิร์ซยังมีการแข่งขันสูง ยังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อยู่บ้างจากกำลังซื้อที่ลดลง
ธุรกิจภาพยนตร์มีรายได้รวม 446.1 ล้านบาท คิดเป็น 8.5% เพิ่มขึ้น 206.9 ล้านบาท หรือ 86.5% จากภาพยนตร์ที่ออกฉายทั้งหมด 3 เรื่อง ส่วนใหญ่มาจากรายได้ภาพยนตร์บุพเพสันนิวาส 2 มีรายได้ 392.7 ล้านบาท ธุรกิจจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวีมีรายได้ 198.1 ล้านบาท คิดเป็น 3.8% ลดลง 75 ล้านบาท หรือ 27.5%
ธุรกิจสื่อ ประกอบไปด้วย ส่วนแบ่งรายได้ค่าโฆษณาจากธุรกิจดิจิทัลทีวีช่อง GMM25 และรายได้จากค่าลิขสิทธิ์อื่นๆ มีรายได้ 169.6 ล้านบาท คิดเป็น 3.2% ลดลง 20.9 ล้านบาท หรือ 11% ในแง่ต้นทุนขายและบริการอยู่ที่ 3, 179.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,003.6 ล้านบาท หรือ 46.1% สอดคล้องกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
นอกจากนี้แกรมมี่ยังมีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจเพลงอีกด้วย
