“แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์”อวดกำไรปี’65 โต 1.5 พันล้านบาท ตั้งเป้าปี’66 สินเชื่อพุ่งแตะ 8-10%
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายฉี ชิง–ฟู่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช ไฟแนนซ์เชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ LHFG กล่าวว่า ผลการดำเนินงานปี 2565 กลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีกำไรสุทธิ 1,579 ล้านบาท หรือเติบโต14.1% เมื่อเทียบกับปี 2564 ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ย สำหรับด้านการขยายตัวของสินเชื่อเติบโต23% ซึ่งเติบโตทุกด้าน
โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยมีอัตราการเติบโตสูงกว่า 47% กลุ่มลูกค้ารายย่อย (SMEs) เติบโต 35% และกลุ่มลูกค้าไต้หวันเติบโตสูงถึง 95% และระดับหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) อยู่ในระดับต่ำ ที่ 2.09% ลดลงจากปีที่แล้วที่ 2.44%
ทั้งนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ เพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นของลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้อัตราส่วนสินทรัพย์สภาพคล่อง เพื่อรองรับกระแสเงินสด (NPL Coverage) อยู่ที่ 221%
นายฉี ชิง กล่าวว่า กลยุทธ์ปี 2566 เน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุนที่ครบวงจรเหมาะสมกับสถานการณ์และจังหวะการลงทุนให้กับลูกค้าผ่านดิจิทัล แพลตฟอร์ม (Digital Platform)
รวมถึงกลยุทธ์การการทำงานร่วมกันภายในกลุ่มธุรกิจทางการเงินและ CTBC บริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อร่วมกันพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม
รวมทั้งขยายฐานลูกค้า ที่ทำธุรกิจต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น (Trade Finance) นอกจากนี้ มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สินเชื่อรูปแบบใหม่ๆ และสินเชื่อสำหรับกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพแต่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน
“เศรษฐกิจปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องราว 3.7% โดยได้รับแรงส่งจากภาคบริการหลังการท่องเที่ยวฟื้นตัวขณะที่การส่งออกมีแนวโน้มลดลง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะเศรษฐกิจจีนจะเข้ามาชดเชยได้ ทำให้ธุรกิจเทรดไฟแนนซ์ยังคงขยายตัวได้ในปีนี้“นายฉี ชิงกล่าว
นางสาวชมภูนุช ปฐมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด(มหาชน) (LH BANK) กล่าวว่า ถึงเป้าหมายทางธุรกิจธนาคารในปี 2566 คาดว่าสินเชื่อเติบโตที่ระดับ 8-10% จากปีก่อนที่ 20.8% รายได้รวมเติบโต 10-12% ใกล้เคียงปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยเติบโต 10-12% จากปีก่อนที่13.9% รายได้ค่าธรรมเนียมเติบโต 10-15% จากปีก่อนที่ลดลง 12%
ขณะที่อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ (Cost to Income) ที่ 45% จากปีก่อนที่ 44.2% ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย 2.3-2.4% จากปีก่อนที่ 2.4% และสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)ที่ 2.5% จากปีก่อนที่ 2.1% โดยการเติบโตของธุรกิจจะได้รับแรงหนุนจากเศรษฐกิจที่คาดการณ์ว่าจะดีกว่าปีก่อนหลังการเปิดประเทศ
นอกจากนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายทางธุรกิจในระยะ 5 ปี ธนาคารมีเป้าหมายปรับพอร์ตสินเชื่อให้มีความสมดุลมากขึ้น โดยจะมีสัดส่วนสินเชื่อรายใหญ่ 35% ของพอร์ตรวม สินเชื่อเอสเอ็มอี 35% และสินเชื่อรายย่อย 30% มีรายได้ค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้น 5 เท่า มีจำนวนลูกค้าที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า มีจำนวนลูกค้าช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น 4 เท่าและมีสัดส่วนผู้ใช้ช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้นเป็น 90% จากปัจจุบันที่ 60%
นางสาวชมพูนุช กล่าวว่า ผลประกอบการในปี 2565 ที่ผ่านมาถือว่าเติบโตได้ดีในสภาวะที่เศรษฐกิจเพิ่งเริมฟื้นตัวโดยเฉพาะในส่วนของสินเชื่อเป็นการเติบโตในกลุ่มเอสเอ็มอี และรายย่อยที่เรามุ่งเน้นที่จะกระจายพอร์ตไปเพื่อสร้างความสมดุล และสร้างรายได้ โดยในปีนี้ก็จะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนที่ดี แต่เป็นการเติบโตอย่างระมัดระวัง และใช้ช่องทางดิจิทัลเข้ามาช่วย
“รวมถึงขยายออกไปยังภูมิภาคมากขึ้นในกลุ่มสินเชื่อบ้าน และกลุ่มธุรกิจไต้หวัน ซึ่งในปีนี้จะขยายฮับในต่างจังหวัดเพิ่มอีก 9 แห่ง เพื่อรองรับ และในส่วนของพอร์ตธุรกิจไต้หวันตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 15,000 ล้านบาท จากสิ้นปีก่อนที่9,000 ล้านบาท“นางสาวชมพูนุช กล่าว
นางสาวชมพูนุช กล่าวว่า ด้านกลยุทธ์ของธนาคารปี 2566 มุ่งเติบโตในพอร์ตสินเชื่อที่สร้างผลตอบแทนที่ดี หรือ กลุ่มHigher yield ที่มีการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสม รวมถึงการ Cross selling ผลิตภัณฑ์ของธนาคาร และการเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม
รวมทั้งการพัฒนาศักยภาพด้านดิจิทัล (Digital Transformation) ที่เน้นการปรับกระบวนการทำงานให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว และด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) ควบคู่ไปกับการยกระดับ Digital Platform ให้ตอบโจทย์การทำธุรกรรมการเงินและการลงทุนที่ครบวงจร
เช่น Investment Application “LH Bank Profita” และ Mobile Banking Application “LHB You” ที่เปิดให้บริการเมื่อเร็ว ๆ นี้ ด้วย Highlight Features ทางการเงินรูปแบบใหม่ที่สอดรับกับทุกไลฟ์สไตล์การใช้จ่าย ฝาก–ถอน–โอนหรือลงทุนแบบไหน LHB You จะดีไซน์ไลฟ์สไตล์การเงินส่วนตัวผ่านการค้นหาตัวตนของลูกค้าในรูปแบบของ AVATAR
เพื่อสร้างโปรไฟล์ที่โดดเด่น ทำธุรกรรมครบวงจร ไม่ต้องไปสาขา นอกจากนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างยั่งยืน Sustainable Banking ดำเนินงานอย่างมีสำนึกและมีส่วนช่วยรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และหลักธรรมาภิบาลที่ดี รวมทั้งสนับสนุนสินเชื่อด้าน ESG
