คึกคัก 8 วัน ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทะลุ 3.7 ล้านคน รอใช้สิทธิ 1 เม.ย.

คึกคัก 8 วัน ยืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทะลุ 3.7 ล้านคน รอใช้สิทธิ 1 เม.ย.

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (บัตรคนจน) ตั้งแต่ประกาศผลและเปิดยืนยันตัวตนเมื่อวันที่ 1 มีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุด ณ วันที่ 8 มีนาคม 2566 เวลา 15.00 น. มีผู้ได้รับสิทธิโครงการบัตรคนจน ยื่นยืนยันตัวตนแล้ว 3.73 ล้านคน ส่วนผู้ที่ไม่ผ่านคุณสมบัติ ใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์แล้ว 7.6 แสนคน

ทั้งนี้ ประชาชนที่ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่ 1-26 มีนาคม 2566 และตรวจสอบพบว่าผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่ 26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบันจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2566 เท่านั้น

สำหรับสวัสดิการในบัตรคนจนรอบใหม่ ที่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 เมษายนนี้ มีรายละเอียด ดังนี้ 1.วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น สินค้าเพื่อการศึกษาและวัตถุดิบเพื่อเกษตรกรรมจากร้านธงฟ้า และร้านอื่นๆ ตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนด จำนวน 300 บาทต่อคนต่อเดือน 2.วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มจากร้านค้าตามที่กระทรวงพลังงานกำหนด จำนวน 80 บาทต่อคนต่อ 3 เดือน

Advertisement

3.วงเงินรวมค่าเดินทางผ่านระบบขนส่งสาธารณะ จำนวน 750 บาทต่อคนต่อเดือน โดยสามารถใช้โดยสารได้กับระบบขนส่ง 8 ประเภท ได้แก่ รถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) (2) รถบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) (3) รถไฟฟ้า บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพจำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส รถไฟฟ้ามหานคร หรือเอ็มอาร์ที และบริษัท รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออกเชื่อมสามสนามบิน จำกัด หรือแอร์พอร์ตลิงก์ (4) รถไฟ (5) รถเอกชนร่วม ขสมก. รถเอกชน และส่วนราชการกรุงเทพมหานคร (6) รถเอกชนร่วม บขส. และรถเอกชน (7) รถสองแถวรับจ้าง และ (8) เรือโดยสารสาธารณะ โดยไม่จำกัดวงเงินตามประเภทรถ

4.ค่าไฟฟ้า อุดหนุนค่าไฟฟ้าจำนวน 315 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด และ 5.ค่าน้ำประปา อุดหนุนค่าน้ำประปาจำนวน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน กรณีที่ใช้น้ำประปาเกิน 100 บาท แต่ไม่เกิน 315 บาท ผู้มีบัตรที่ได้รับสิทธิ ยังคงได้รับการสนับสนุนในวงเงิน 100 บาท และจะต้องชำระส่วนที่เกิน 100 บาท ด้วยตนเอง แต่หากผู้มีบัตรใช้น้ำประปาเกิน 315 บาท ผู้มีบัตรที่ได้รับสิทธิจะเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด

สำหรับมาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา กระทรวงการคลังโดยกรมบัญชีกลาง จะชำระค่าบริการที่ผู้มีบัตรที่ได้รับสิทธิที่ใช้บริการตามเงื่อนไขที่กำหนดให้แก่หน่วยงานผู้ให้บริการทั้ง 5 แห่ง ได้แก่ สำนักงานการไฟฟ้านครหลวง สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กิจการไฟฟ้า สวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ สำนักงานการประปานครหลวง และสำนักงานการประปาภูมิภาค โดยผู้มีบัตรที่ได้รับสิทธิไม่จำเป็นต้องสำรองเงินในการชำระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาแต่อย่างใด

Advertisement

“ทั้งนี้ ผู้มีบัตรที่ประสงค์รับสิทธิในค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาจะต้องดำเนินการลงทะเบียนผ่านผู้ให้บริการดังกล่าวก่อนการเริ่มใช้สิทธิ โดยกระทรวงการคลังจะประชาสัมพันธ์วันเปิดรับลงทะเบียนให้ทราบอีกครั้ง” นายพรชัยกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image