กบง.ตรึงราคาก๊าซหุงต้ม-เอ็นจีวี 3 ด. ด้านกกพ.ชง 3 แนวขยับเอฟที ค่าไฟจ่อขึ้น 3 สต.- ลุ้นกพช.บี้เท่าเดิม 4.72บ.
เมื่อวันที่ 8 มีนาคม นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยผลการประชุม กบง. เมื่อวันที่ 7 มีนาคมว่า ได้มีมติเห็นชอบคงราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ขายส่งหน้าโรงกลั่นแอลพีจีที่ 20.9179 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) หรือ 423 บาทต่อถัง 15 กก. มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566-30 มิถุนายน 2566 นอกจากนี้ยังคงราคาขายปลีกก๊าซเอ็นจีวี โดยให้กระทรวงพลังงานขอความอนุเคราะห์ ปตท.กำหนดราคาขายปลีก ดังนี้ รถยนต์ทั่วไป ให้คงราคาขายปลีก 17.59 บาทต่อ กก. เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม-15 มิถุนายน 2566 ขณะที่รถแท็กซี่ในโครงการเอ็นจีวีเพื่อลมหายใจเดียวกันของ ปตท. ให้คงราคาขายปลีก 13.62 บาทต่อ กก. เป็นเวลา 3 เดือน ตั้งแต่ 16 มีนาคม-15 มิถุนายน 2566 เช่นกัน
ที่ประชุมยังเห็นชอบการกำหนดสัดส่วนการผสมไบโอดีเซลในน้ำมันกลุ่มดีเซลหมุนเร็วให้เป็นไปตามสัดส่วนการผสม ดังนี้ น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี7 ไม่ต่ำกว่า 6.6% และไม่สูงกว่า 7% น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ไม่ต่ำกว่า 6.6% และไม่สูงกว่า 10% และน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว บี20 ไม่ต่ำกว่า 6.6% และไม่สูงกว่า 20% มีผลตั้งแต่ วันที่ 1 เมษายน-30 กันยายน 2566 เพื่อไม่ให้ต้นทุนเนื้อน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น และลดภาระกองทุนน้ำมันฯในการรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล
แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กกพ.ที่มีนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธาน กกพ. เป็นประธาน เมื่อวันที่ 8 มีนาคม ได้รับทราบภาระต้นทุนค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที งวดใหม่พฤษภาคม-สิงหาคม 2566 ให้สำนักงาน กกพ.นำค่าเอฟทีประมาณการ และแนวทางการจ่ายภาระต้นทุนคงค้างของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่แบกรับไปคำนวณ แบ่งเป็น 3 กรณี จากนั้นให้ชี้แจงรายละเอียดกับสื่อมวลชนวันที่ 10 มีนาคมนี้ เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ระหว่างวันที่ 10-20 มีนาคม 2566 จากนั้นจะเสนอบอร์ด กกพ.วันที่ 22 มีนาคม เพื่อพิจารณาอนุมัติค่าไฟงวดใหม่
เบื้องต้นค่าไฟงวดใหม่จะเปิดประชาพิจารณ์แบ่งเป็น 3 กรณี กรณีราคาต่ำสุดจะมากกว่าหน่วยละ 4.72 บาท เป็นอัตราค่าไฟในงวดปัจจุบัน (มกราคม-เมษายน 2566) แต่จะไม่ถึงหน่วยละ 4.80 บาท ส่วนกรณีอัตราสูงสุด เป็นการคืนหนี้ให้ กฟผ.กว่า 1 แสนล้านบาท แบบเต็มจำนวน คาดว่าค่าไฟจะมากกว่าหน่วยละ 6 บาท
“ตอนนี้ กกพ.ยังไม่สามารถสรุปรายละเอียดตัวเลขชัดเจนได้ เพราะต้องนำผลการประชุมครั้งนี้ไปคำนวณอีกครั้ง ค่าไฟงวดใหม่จะแบ่งเป็น 3 กรณี แบบงวดที่ผ่านมา เพื่อเปิดประชาพิจารณ์แต่ละกรณี โดยแบ่งการจ่ายคืนหนี้ให้ กฟผ.ต้องแบกภาระต้นทุนแทนประชาชนไปก่อนหน้านี้กว่า 1 แสนกว่าล้านบาท อาทิ ทยอยจ่ายหน่วยละ 30-40 สตางค์ หรือจ่ายทั้งหมด จะทำให้ค่าไฟฟ้าราคาสูงสุดสูงกว่า 6 บาท จากนั้นต้องทำประชาพิจารณ์ และนำข้อสรุปเสนอบอร์ดอีกครั้ง” แหล่งข่าวกล่าว
รายงานข่าวจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานวันที่ 9 มีนาคมนี้ คาดว่า พล.อ.ประยุทธ์จะสอบถามประเด็นค่าไฟ และหากปรับเพิ่มก็จะขอให้ตรึงราคาเดิม
มีรายงานว่าค่าไฟงวดใหม่ พฤษภาคม-สิงหาคม 66 บอร์ด กกพ.เคาะอัตราค่าไฟฟ้ากรณีต่ำสุดอยู่ที่อัตรา 98 สตางค์ต่อหน่วย สูงกว่างวดที่ผ่านมาเล็กน้อย อยู่ที่อัตรา 93.43 สตางค์ต่อหน่วย เมื่อรวมกับค่าไฟฐาน ส่งผลให้ราคาค่าไฟที่ประชาชนต้องจ่ายเฉลี่ยประมาณ 4.75 บาทต่อหน่วย จากงวดปัจจุบัน 4.72 บาทต่อหน่วย เป็นกรณีที่ต้องทยอยชำระค่าเชื้อเพลิงให้กับ กฟผ.ที่แบกรับแทนประชาชนก่อนหน้านี้ประมาณ 1.3 แสนล้านบาท แต่ถ้ากรณีชำระคืนหนี้ให้ กฟผ.ทั้งหมด ค่าไฟต้องเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.93 บาทต่อหน่วย ทำให้ประชาชนต้องจ่ายค่าไฟฟ้าเฉลี่ย 6.69 บาทต่อหน่วย เชื่อว่าประชาชนจะเลือกอัตราต่ำสุด