ไทยเบฟ ถอน ‘โออิชิ’ ออกจากตลาดหลักทรัพย์ แจง 3 เหตุผล

ไทยเบฟ ถอน ‘โออิชิ’ ออกจากตลาดหลักทรัพย์ แจง 3 เหตุผล

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ OISHI ได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงการที่บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) เตรียมทำ Tender Offer เสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท ในราคา 59.00 บาทต่อหุ้น ปลพเพิกถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยในหนังสือดังกล่าวระบุว่า ไทยเบฟ ถือหุ้นในบริษัทจำนวนทั้งสิ้น 298ฐ720,398 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 79.66 ของหุ้นที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษั โดยไทยเบฟมีความประสงค์ที่จะทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่เหลือทั้งหมดจำนวน 76,279,602 หุ้น คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20.34ของหุ้นที่ออกและ จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท เพื่อการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในราคาเสนอซื้อหุ้นที่ราคา 59.00 บาทต่อหุ้น

ทั้งยังได้แจ้งเหตุผล ดังนี้

Advertisement

1. ไทยเบฟเล็งเห็นว่าปัจจุบันปริมาณการซื้อขายหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ มีไม่มากนัก ไทยเบฟจึงเห็นว่าการทำคำเสนอซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัท เพื่อเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทในครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มทางเลือกและโอกาสให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทสามารถขายหุ้นของบริษัทได้

2.กลุ่มไทยเบฟอยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้เกี่ยวกับแผนการปรับโครงสร้างการดำเนินงานและการประกอบธุรกิจของกลุ่มธุรกิจอาหาร และกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ภายในกลุ่ม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ และ/หรือเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ โดยจะดำเนินการจัดกลุ่มธุรกิจอาหาร และกลุ่มธุรกิจเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งรวมถึง การปรับโครงสร้างของกิจการในเรื่องต่าง ๆ ซึ่งอาจดำเนินการในลักษณะของการซื้อ จำหน่าย หรือโอนทรัพย์สินหรือสิทธิต่าง ๆ การควบรวมกิจการ การโอนสิทธิตามสัญญาทางการเงิน การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือแนวทางในการดำเนินธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงนโยบายการบริหารงาน การโอนย้ายพนักงาน การกู้ยืม-ให้กู้ยืมเงิน การระดมทุนในรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น ซึ่งการปรับโครงสร้างที่กล่าวมานี้อาจมีการทำรายการหรือธุรกรรมระหว่างบริษัทกับไทยเบฟ และ/หรือบริษัทในกลุ่มไทยเบฟได้ทั้งนี้ ไทยเบฟจะพิจารณาดำเนินการตามแผนการดังกล่าวตามความเหมาะสมในอนาคต เนื่องจากแผนการดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอน จึงอาจมีการเพิ่มเติม และ/หรือ เปลี่ยนแปลงได้ดังนั้น การเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัท จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน จะทำให้สามารถเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการกิจการและแผนการปรับโครงสร้างดังกล่าวมากยิ่งขึ้น

3.เนื่องจากบริษัทจะไม่มีสถานะเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ อีกต่อไป การดำเนินการดังกล่าวจะยังช่วยลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียน

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากรายงานผลประกอบการที่บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น ระบุว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการรวมในไตรมาส 1/2565-2566 ทั้งสิ้นจํานวน 3,461 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 479 ล้านบาท หรือ 16.1% จากไตรมาสที่ 1/2564-2565 ด้วยการเติบโตทั้งธุรกิจเครื่องดื่ม และธุรกิจร้านอาหาร

ทั้งนี้เป็นผลจากเทรนด์สุขภาพที่ผลักดันยอดขายสินค้าใหม่อย่าง “โออิชิ กรีนที ฮันนี่เลมอน นํ้าตาล 0%” และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมานั่งทานอาหารในร้านมากขึ้น เช่นเดียวกับการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นจานด่วน “โออิชิ บิซโทโระ” มาตอบโจทย์ผู้บริโภครุ่นใหม่ รวมถึงการทำกิจกรรมการตลาด ขยายช่องทางจัดจำหน่ายสินค้า

อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินธุรกิจและการลงทุนทางด้านการตลาดเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนขายและให้บริการในไตรมาสที่ 1/2565-2566 เพิ่มในสัดส่วนที่มากกว่าการเพิ่มขึ้นของยอดขาย โดยเพิ่มขึ้น 459 ล้านบาท หรือ 23.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2564-2565 อยู่ที่ 2,409 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image