บาทเปิดอ่อนค่าเล็กน้อย 34.54 คาดเคลื่อนไหวกรอบแคบ ตลาดรอลุ้นรายงาน ศก.จีน-ยุโรป
เมื่อวันที่ 15 มีนาคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 34.54 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.52 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.40-34.65 บาทต่อเหรียญสหรัฐ
ผู้เล่นในตลาดหุ้นสหรัฐต่างกลับมาทยอยเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังความกังวลต่อเสถียรภาพระบบธนาคารสหรัฐเริ่มลดลง เนื่องจากยังไม่พบการปิดตัวเพิ่มเติมของธนาคารขนาดเล็ก-กลางในสหรัฐ จากปัญหาสภาพคล่อง
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐยังได้แรงหนุนจากรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ชะลอลงสู่ระดับ 6.0% และ 5.5% ตามที่ตลาดคาด ส่งผลให้ผู้เล่นในตลาดมองว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจไม่จำเป็นต้องเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.50% แต่การเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องจนแตะระดับ 5.25% ยังมีความเป็นไปได้
นายพูนกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท แม้เงินบาทจะเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าในช่วงตลาดรับรู้รายงานอัตราเงิน CPI สหรัฐที่ส่งผลให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าสุดเกือบแตะระดับ 34.65 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ทว่า การอ่อนค่าลงของเงินเหรียญสหรัฐ รวมถึงโฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรทองคำ ก็ช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทลง ทำให้โดยรวมเงินบาทไม่ได้อ่อนค่าลงไปมาก
อย่างไรก็ดี ในวันนี้ค่าเงินบาทจะยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบต่อเนื่อง จนกว่าตลาดจะรับรู้ปัจจัยใหม่ๆ ซึ่งในสัปดาห์นี้ ยังมีปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม อาทิ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในฝั่งจีน รวมถึงผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)
นอกจากนี้ ควรจับตาแนวโน้มฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะฟันด์โฟลว์ในฝั่งหุ้น ว่านักลงทุนต่างชาติจะชะลอการขายหุ้นไทย หรือพลิกกลับมาเป็นฝั่งซื้อสุทธิได้หรือไม่ หลังจากที่วันก่อนหน้า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง พร้อมแรงขายสุทธิของนักลงทุนต่างชาติเกือบ 5 พันล้านบาท ซึ่งหากนักลงทุนต่างชาติทยอยกลับเข้ามาซื้อหุ้นไทยมากขึ้น ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทในระยะนี้ หรืออาจช่วยหนุนการแข็งค่าของเงินบาทได้
นายพูนกล่าวว่า ในฝั่งตลาดค่าเงิน เงินเหรียญสหรัฐเคลื่อนไหวผันผวน โดยมีจังหวะปรับตัวแข็งค่าขึ้น หลังตลาดรับรู้รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI สหรัฐ ก่อนที่เงินเหรียญสหรัฐจะพลิกกลับมาอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก หลังตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น
ส่วนหนึ่งอาจมาจากมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่ประเมินว่าแม้อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับสูง แต่แรงกดดันจากปัญหาด้านสภาพคล่องในระบบธนาคารสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่สามารถเร่งขึ้นดอกเบี้ยหรือเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเหมือนที่ตลาดเคยกังวลได้
สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนกุมภาพันธ์ และจะรอติดตามรายงานดัชนีราคาผู้ผลิต (Producer Price Index:PPI) เพื่อช่วยในการประเมินแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐ หลังจากที่ล่าสุดอัตราเงินเฟ้อ CPI ในเดือนกุมภาพันธ์ ชะลอลงตามคาด แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดมาก
“นอกจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะยังคงติดตามเสถียรภาพของระบบธนาคารสหรัฐ โดยผู้เล่นในตลาดจะรอลุ้นว่าจะมีธนาคารอื่นๆ โดยเฉพาะธนาคารขนาดเล็ก-กลางที่จะประกาศปิดตัวลงจากปัญหาสภาพคล่องอีกหรือไม่” นายพูนกล่าว
