หุ้นไทยร่วงลดลงรับข่าวยุบสภาชัดเจน หลังดัชนีลงลึกกว่า 20 จุด
วันที่ 20 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,563.67 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,555.45 จุด ปรับลดลง 8.22 จุด หรือ 0.53% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,569.76 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,543.47 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 62,838.25 ล้านบาท
โดย นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ (บล.) เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีปรับลดลงแรงกว่า 20 จุด ก่อนจะถูกดึงคืนในช่วงท้ายตลาด โดยสาเหตุยังเป็นปัจจัยเดิมๆ ที่ยังสร้างความกังวลต่อเนื่อง คือ ความกังวลธนาคาร (แบงก์) สหรัฐล่ม ลามไปยังแบงก์ยุโรป ซึ่งธนาคารเครดิต สวิส ได้ถูกธนาคารยูบีเอสเข้าไปซื้อไว้ แต่หากประเมินมาตรการในการช่วยเหลือ ยังไม่ได้ช่วยในเรื่องพันธบัตรรัฐบาล (บอนด์ยีล) มากนัก ซึ่งนักลงทุนส่วนใหญ่ก็เป็นฝั่งสถาบันการเงินด้วย ทำให้มีความเสี่ยงในการตัดหนี้สูญ (write-off) ได้ จึงเห็นบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกค่อนข้างไม่สดใสนัก
“ประเมินแรงกระทบกับแบงก์ไทยอาจไม่ได้มากนัก แต่โดนเป็นบรรยากาศการลงทุนที่ถูกกระทบแทน ส่วนสาเหตุที่ดัชนีถูกดึงคืนในช่วงก่อนปิดตลาดนั้น เป็นเพราะมีการประกาศราชกิจจานุเบกษาในยุบสภาแบบชัดเจนแล้ว ทำให้ตลาดมีภาพการฟื้นตัวจากภาวะตื่นตระหนก (แพนิก) จากกรณีธนาคารเครดิต สวิสได้ แต่ยังไม่ได้มีผลสนับสนุนให้ดัชนีวิ่งขึ้นได้ดีมากนัก เพราะปัจจุบันกุญแจสำคัญที่มีผลต่อตลาดหุ้น ยังเป็นปัจจัยต่างประเทศอยู่ อาทิ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงภาพระยะสั้นตลาดหุ้นไทยยังโดนกดดันจากเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่พยายามลดความเสี่ยงการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอยู่” นายวิจิตรกล่าว
นายวิจิตรกล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุน มองว่าปัจจัยร้ายต่างๆ นั้น ความจริงหากตัดปัจจัยกระทบจากต่างประเทศออก เรายังเห็นทิศทางของบ้านเราไปได้ เศรษฐกิจยังฟื้น สามารถเลือกเล่นหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการทำมาหากิน หรือภาพเศรษฐกิจได้ โดยเฉพาะเมื่อดัชนีย่อตัวลงต่ำกว่าระดับ 1,600 จุดตอนนี้ สามารถตั้งรับกับ อาทิ ไอซีที อย่างแอดวานซ์ ย้านฐานนิคมอุตสาหกรรม อย่างดับบลิวเอชเอ การบริโภคในประเทศ ยังตั้งรับได้ แม้ราคาหุ้นยังไม่ได้โดดเด่นมาก อย่างซีพี ออลล์ เป็นต้น
