‘อีซูซุ’ ยึดไทยผลิต ปิกอัพไฟฟ้า ‘ดีแมคซ์อีวี’ ส่งยุโรป ชี้ยุบสภาไม่มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ
เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ในงานมอเตอร์โชว์ 2023 ระหว่างวันที่ 22 มีนาคม- 22 เมษายน 2566 ทึ่เมืองทองธานี
พร้อมด้วย คุณปนัดดา เจณณวาสิน ประธานที่ปรึกษา ทาเคชิ คาซาฮาระ รองกรรมการผู้จัดการ คุณวิชัย สินอนันต์พัฒน์,กรรมการ บริษัทตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด
การยุบสภามีผลต่อตลาดรถยนต์หรือไม่ อย่างไร
– การยุบสภาไม่มีผลกระทบต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพราะเป็นเรื่องที่คาดการณ์ว่าจะเกิดขึ้นอยู่แล้ว โดยปกติตลาดรถยนต์ก่อนการเลือกตั้งก็จะยอดการขายดี และคาดว่าปีนี้ ก่อนการเลือกตั้งทั่วไป ตลาดรถยนต์ไทยก็จะดีขึ้นมากกว่าเดิม
ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อตลาดรถยนต์
– สำหรับสิ่งที่คาดว่าจะมีผลกระทบต่อยอดขาย และการตัดสินใจของลูกค้า คือเรื่องของเศรษฐกิจมหาภาค และเรื่องของเงื่อนไขของบริษัทไฟแนนซ์ ถ้าเข้มงวดมากก็จะมีผลกระทบมาก ถ้าเข้มงวดน้อยก็จะส่งผลในเชิงบวก ซึ่งเงื่อนไขและข้อกำหนดต่างๆ ที่มีออกมา เราเชื่อว่าไม่ค่อยมีผลต่อการดำเนินงานของบริษัทไฟแนนซ์ เพราะแต่ละบริษัทก็จะมีเงื่อนไขที่ระมัดระวังเรื่องการปล่อนสินเชื่อเพื่อความแข็งแกร่งของธุรกิจอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะมีผลต่อการดำเนินงานของบริษัทไฟแนนซ์ น่าจะเป็นเรื่องของ NPL ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง เพราะถ้า NPLเยอะก็จะมีผลกระทบมากเช่นกัน
การเปิดตัวรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดกลางที่ประเทศญี่ปุ่นเอลฟ์ อีวี (Elf EV) มีแผนจะเข้ามาทำทำตลาดที่ประเทศไทยเมื่อไหร่
– ถึงแม้ว่าอีซูซุ เราจะมีการเปิดตัว Elf EV ที่ประเทศญี่ปุ่นไปแล้วก็ตาม แต่ในกรณีของประเทศอื่นๆ นั้น ต้องพิจารณาจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก มีความต้องการใช้งานเป็นอย่างไร แล้วบริษัทจะนำมาประกอบการตัดสินใจวางจำหน่ายในประเทศอื่นๆ นอกจากประเทศญี่ปุ่นอีกครั้งหนึ่ง ดังนั้นการตัดสินใจที่จะนำรถ Elf EV มาจำหน่ายที่ประเทศไทย จึงต้องพิจารณาจากความต้องการของลูกค้า ลักษณะการใช้งาน และสถานการณ์ต่างๆ ด้วยเช่นกัน เราจะพิจารณา Solution ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า
อีซูซุ ดีแมคซ์ อีวี รถปิกอัพไฟฟ้า 100% มีความคืบหน้าอย่างไร
– สำหรับ D-MAX EV นั้น ขณะนี้กำลังอยู่ในกระบวนการพัฒนาต้นแบบ (prototype) ซึ่งต้องใช้เวลาสักระยะ โดยวางแผนที่จะนำออกจำหน่ายที่ทวีปยุโรปก่อน ที่มีความจำเป็นจะต้องใช้รถไฟฟ้าเท่านั้น สำหรับประเทศอื่นๆ รวมประเทศไทย เราจะพิจารณาจากสถานการณ์ของแต่ละประเทศ และความต้องการของลูกค้าเป็นหลักแล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง
ปิกอัพไฟฟ้า ดีแมคซ์ อีวี จะผลิตในประเทศไทยหรือไม่
– หากมีการผลิตรถ EV คาดการณ์ว่าจะประกอบที่ประเทศไทย และส่งออกไปขายที่ทวีปยุโรป เนื่องจากเราได้ย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทย ทำให้การที่จะประกอบในประเทศญี่ปุ่นเป็นเรื่องยากมาก ซึ่งเราไม่สามารถระบุระยะเวลาที่ชัดเจนได้เพราะยังอยู่ในกระบวนการขั้นตอนการพัฒนาอยู่
ต้องลงทุนเพิ่มไลน์ผลิตในโรงงานหรือไม่
– ในกรณีที่ใช้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิต การลงทุนเพิ่มจะขึ้นอยู่กับจำนวนความต้องการของตลาด ถ้ามีปริมาณเพิ่มมากขึ้นเราก็มีความจำเป็นต้องขยายโรงงาน ส่งผลให้มีการลงทุนเพิ่มมากขึ้น หากบางชิ้นส่วนมีความคล้ายกับรถ D-Max ในปัจจุบัน ก็สามารถใช้สายการผลิตเดิมได้ แต่บางชิ้นส่วน เช่น แบตเตอรี่ หรือมอเตอร์ต่างๆ มีความต่างกัน จำเป็นต้องเพิ่มสายการผลิตใหม่
ตลาดรถยนต์ปีนี้จะเติบโตอย่างไร
– สำหรับยอดขายของปี 2566 นี้ ในช่วง 2 เดือนแรกของปี ที่ผ่านมา มีจำนวน 134,027 คัน ถ้าเทียบกับปีที่แล้ว ลดลงคิดเป็น 6.9% มีผลมาจากหลายปัจจัย ปัจจัยแรกมาจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น กระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม ปัจจัยที่สองมาจากเมื่อเดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ของปีที่แล้วมียอดค้างส่งรถมาจากเดือนธันวาคมของปี 2021 ทำให้มีผลกระทบกับยอดขายในปีถัดมา เนื่องจากเกิดปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์อย่างแรง พอถึงช่วงต้นปี 2022 สถานการณ์ของการผลิตของเซมิคอนดักเตอร์กลับมาดีขึ้น ส่งผลให้เกิดยอดขายในปี 2022 สูงมากกว่าปกติ
ปัญหาขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ยังมีหรือไม่
– คาดการณ์ในปีนี้ ตลาดรวมทั้งปี น่าจะมียอดขายจำนวน 860,000 คัน คิดว่าดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ที่ขายได้จำนวน 850,000 คัน สำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ ถ้าเทียบกับปี 2022 แล้วถือว่าในปีนี้ดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่อีซูซุที่ประสบปัญหาอย่างนี้ ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นก็ประสบปัญหาเดียวกัน สถานการณ์ดีขึ้นแต่ไม่เท่าเดิมยังมีปัญหาบางอย่างอยู่บ้าง และยังจะมีความเสี่ยงเรื่องการขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์แน่นอน เนื่องจากการผลิตรถยนต์ EV ใช้เซมิคอนดักเตอร์เยอะขึ้นกว่าเดิม เช่น สินค้าไฮเทค กลุ่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า สมาร์ทโฟน ล้วนแล้วแต่ใช้เซมิคอนดักเตอร์เป็นจำนวนมาก จึงคาดว่าน่าจะส่งผลให้ขาดแคลนอีกในอนาคต
ปีนี้จะสามารถรักษาส่วนแบ่งตลาดได้หรือไม่
– การที่จะรักษาส่วนแบ่งการตลาด ของอีซูซุให้สูงเท่าปีที่แล้วเป็นสิ่งที่ยากมาก เพราะปีที่ผ่านมา ยอดขายของเราดีมากขึ้นกว่าปกติ คือ ในปี 2022 อีซูซุจำหน่ายรถยนต์ได้ สูงถึง 212,491 คัน ได้ส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์รวมจากทุกประเภท 25% ทั้งนี้การรักษาส่วนแบ่งการตลาด 25% เดิมป็นเรื่องยาก เพราะเป็นตัวเลขที่สูงมากของตลาด อีซูซุ มียอดจำหน่ายรถปิกอัพ เป็นจำนวน 175,425 คัน คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 45.2% ถือเป็นการครองส่วนแบ่งการตลาดที่สูงสุดของปิกอัพในรอบมากกว่า 40 ปีที่ผ่านมา
ตลาดรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เป็นอย่างไรบ้าง
– รถอีซูซุ วี-ครอส 4×4 มีส่วนแบ่งตลาด 7% ส่วนรถปิกอัพที่มียอดขายดีที่สุดในประเทศไทยคือ อีซูซุดีแมคซ์ไฮแลนเดอร์ ในขณะที่ประเทศอื่น เช่น ประเทศออสเตรเลียกับทวีปยุโรป รถปิกอัพอีซูซุ วี-ครอส 4 x 4 จะมีเป็นที่นิยมและเป็นตลาดที่ใหญ่มาก เราจึงอยากให้คนไทยใช้รถ อีซูซุดีแมคซ์ 4 x 4 เพิ่มมากขึ้น จึงเปิดตัวโปรเจกต์พิเศษ “Isuzu V-Cross 4×4 Master of All Roads
จะรักษาส่วนแบ่งตลาดไว้ได้อย่างไร
– อีซูซุเชื่อมั่นว่ารถอีซูซุของเราเป็นรถที่ดีมีคุณภาพมาก จึงทำให้เราได้รับส่วนแบ่งการตลาดที่สูงมากจากปีที่แล้ว เพราะลูกค้าเห็นถึงคุณภาพและสมรรถนะของรถ จึงส่งผลให้ลูกค้าจึงตัดสินใจซื้อ สำหรับอีซูซุการรักษาส่วนแบ่งการตลาดให้สูงได้เท่านี้เป็นเรื่องค่อนข้างยาก แต่ถ้าเราสามารถรักษายอดขายอันดับ ที่ 1 ได้ ก็เป็นเรื่องที่ดี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจซื้อของลูกค้าเป็นหลัก เพราะลูกค้าเป็นผู้เลือก
สถานการณ์การส่งออกอีซูซุ
– เนื่องจากปัญหาเซมิคอนดักเตอร์ที่เกิดขึ้น ทำให้ปีที่แล้วเราผลิตเพื่อส่งออกได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ เราหวังว่าปัญหาเซมิคอนดักเตอร์เริ่มคลี่คลายลงเรื่อยๆ เราน่าจะมีจำนวนการผลิตเพื่อส่งออกมากกว่าปีที่แล้วได้
ปัจจัยบวกและลบที่อาจเผชิญในปีนี้
– นอกจากปัญหาเซมิคอนดักเตอร์แล้ว ยังมีปัญหาจากเรื่องของจำนวนเรือบรรทุกรถยนต์เพื่อการส่งออกอาจจะไม่เพียงพอ และอีกประการสำคัญคือ ปัญหาภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกก็จะกระทบกับยอดส่งออกด้วยเช่นกัน ส่วนปัจจัยบวกที่มีผลต่อการส่งออก คือสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลายลง ก็อาจจะทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มกลับมาหมุนเวียนใหม่อีกครั้ง