พ.ค.ถกทูตพาณิชย์ ทบทวนเป้าส่งออก 2% เอกชนจี้คุมบาท 34-35 บ. จีนสนร่วมงานแฟร์
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงแนวโน้มการส่งออกช่วงไตรมาส 2/2566 ว่ายังมีหลายปัจจัยกดดันส่งออกไทย เรื่องแรกคือความผันผวนของค่าเงิน ที่มีผลต่อการเจรจาซื้อขายล่วงหน้า หรือหลังตกลงแล้ว อาจมีการขอให้ทบทวนราคา หากบาทไทยแข็งค่าเร็ว ซึ่งเอกชนมองค่าบาทเหมาะสมอยู่ช่วง 34-35 บาทต่อเหรียฐสหรัฐ
เรื่องต่อมา สงครามระหว่างประเทศ เหตุการณ์ประท้วงที่เห็นในหลายประเทศ ภูมิรัฐศาสตร์เปลี่ยนไป เรื่องต่อไปคือ ความเชื่อมั่นระบบการเงินโลก หลังเกิดแบงก์ล่มในสหรัฐ และยังเฝ้าระวังในแถบยุโรป อาจเกิดการชะลอของการสั่งซื้อ อีกเรื่องคือมาตรการที่ไม่ใช่ภาษี ที่จะเห็นการออกกฎระเบียบกันมากขึ้น โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม ลดคาร์บอน ซึ่งยุโรป สหรัฐ เริ่มใช้มากขึ้นในปีนี้ รวมถึงประเทศใหญ่ๆ เช่น จีน พึ่งพาในประเทศมากขึ้น ทั้งภาคผลิต อุตสาหกรรม การเกษตร ฯลฯ
“สัปดาห์นี้จะแถลงตัวเลขส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ น่าจะขยายได้อยู่ แต่ในเดือนมีนาคมอาจเห็นตัวเลขลบมาก เนื่องจากฐานสูง ด้วยมีนาคมปีก่อนมูลค่าส่งออกเกิน 2.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ สูงกว่าค่าเฉลี่ยไทยสามารถประคองได้ 2.4-2.5 หมื่นล้านเหรียญ โดยยังยืนยันตัวเลขส่งออกจะกลับมาขยายต่อเนื่องครึ่งปีหลังนี้ หลังทิศทางเศรษฐกิจที่ว่าถดถอยจะดีขึ้น ซึ่งสั่งการให้ทูตพาณิชย์ทั่วโลก ทบทวน และทำแผนส่งเสริม รวมถึงเป้าดันส่งออกหลายประเทศ แล้วมาประชุมในช่วงจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่ม (ไทยเฟ็กซ์) งานใหญ่ของไทย ที่จัด 23-27 พฤษภาคม เป็นการประชุมเต็มรูปแบบอีกครั้งช่วง 3 ปี เพราะช่วงนั้นเจอโควิดระบาด ก็ต้องมาดูว่าจะคงหรือปรับเป้าส่งออก ที่มองไว้ 2%”
สำหรับความคืบหน้าจัดงานไทยเฟ็กซ์นั้น ขณะนี้มีบริษัทไทยและต่างชาติกว่า 2 พันบริษัท ยื่นจำนงเข้าร่วมงาน ต่างชาติที่สนใจมาก เช่น จีน อาเซียน ไฮไลต์ปีนี้จะเน้นโชว์นวัตกรรมด้านอาหาร อาหารฟิวเจอร์ฟู้ดส์ สินค้าอินโนเวชั่น จัดประชุมเชฟทั่วโลก
