ตามคาด! ส่งออกติดลบต่อ 5 เดือน ก.พ.หดตัว 4.7% ‘ศก.โลก-เงินเฟ้อ’ ตัวแปรหลัก พณ.รุกหนักปั๊ม 2.47 หมื่นดอลล์/เดือน
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม ที่กระทรวงพาณิชย์ นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวภาวะการค้าระหว่างประเทศ-การค้าชายแดนและผ่านแดน เดือนกุมภาพันธ์ 2566 และ 2 เดือนแรก 2566 ว่า ไทยส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ มีมูลค่า 22,376.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 4.7% หรือประมาณ 730,123 ล้านบาท ติดลบ 5.3% เมื่อหักน้ำมัน สินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ติดลบ 0.05% ปัยจัยจาก 1.เมื่อเทียบฐานส่งออกเดือนกุมภาพันธ์ปีก่อนสูง 2.แรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้าชะลอตัว รวมถึงเงินเฟ้อสูง จึงกระทบต่อความต้องการสินค้า โดยเฉพาะกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้ายังหดตัว รวมทั้งสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน (เม็ดพลาสติก และเคมีภัณฑ์) และทองคำ ลดลงจากปัจจัยราคาและค่าเงิน
อย่างไรก็ดี การส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร กลับมาขยายตัวในรอบ 5 เดือน และขยายตัว 3.6% แม้สินค้าอุตสาหกรรมติดลบ 6.2% แต่ยังมีสัดส่วนต่อการส่งออกสูงยังคงขยายตัวได้ดี ได้แก่ รถยนต์และส่วนประกอบ อัญมณีและเครื่องประดับ (ไม่รวมทองคำ) และเครื่องปรับอากาศ แม้ว่าการส่งออกไปตลาดหลัก (สหรัฐ จีน ญี่ปุ่น) ยังคงหดตัว แต่การส่งออกไปตลาดเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญปี 2566 เติบโตดี โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลาง และอินเดีย อีกทั้งการส่งออกไปฮ่องกงคู่ค้าอันดับ 4 ของไทย กลับมาขยายตัวในรอบ 10 เดือน ทั้งนี้ การส่งออกไทย 2 เดือนแรก ติดลบ 4.6% เมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ติดลบ 1.4%
นายสินิตย์กล่าวว่า ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ การนำเข้า มีมูลค่า 23,489.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 1.1% หรือประมาณ 776,425 ล้านบาท ขยายตัว 0.5% และขาดดุลการค้า 1,113.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 46,301 ล้านบาท ทำให้ 2 เดือนแรก 2566 การส่งออก มีมูลค่า 42,625.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 4.6% มีมูลค่า 1,430,250 ล้านบาท ติดลบ 3.2% การนำเข้า มีมูลค่า 48,388.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 3.3% หรือ 1,647,855 ล้านบาท ขยายตัว 5% และขาดดุลการค้ารวม 5,763.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 217,605 ล้านบาท สำหรับ แนวโน้มการส่งออกในระยะต่อถัดไปของปีนี้ ยังต้องมีการผลักดันต่อเนื่อง ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะทำงานเชิงรุกและลึก เพื่อผลักดันและอำนวยความสะดวกการส่งออก
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า แม้เดือนกุมภาพันธ์จะติดลบ 4.7% และติดลบต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 แต่ดูมูลค่ายังสูงกว่าค่าเฉลี่ยเมื่อเทียบกุมภาพันธ์ย้อนหลัง 5 ปี ที่ค่าเฉลี่ย 2.1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ แต่กุมภาพันธ์ปีนี้เกิน 2.2 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ และจากปัจจัยเสี่ยงภายนอกจากเศรษฐกิจโลก เงินเฟ้อ ค่าบาท และฐานมูลค่าส่งออกปีก่อนสูง เดือนมีนาคมยังติดลบ และทั้งไตรมาสแรกปีนี้ตัวเลขจะติดลบ 8% อย่างที่ภาคเอกชนระบุไว้ แต่ยังจากนั้นแนวโน้มติดลบจะลดลงและกลับมาเป็นบวกในครึ่งหลังปีนี้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ยังคงเป้าหมายส่งออกทั้งปี 2566 ไว้ที่บวก 1-2% โดยเฉลี่ยต่อเดือนต้องมีมูลค่าส่งออก 24,700 เหรียญสหรัฐ
