กรมชลประทาน ยึด 10 มาตรการคุมเข้มใช้น้ำหน้าแล้ง ยันน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ

กรมชลประทาน ยึด 10 มาตรการคุมเข้มใช้น้ำหน้าแล้ง ยันน้ำกินน้ำใช้เพียงพอ

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า มีความห่วงใยต่อสถานการณ์น้ำในช่วงฤดูแล้งปีนี้ จึงได้สั่งกำชับทุกหน่วยงานในสังกัดกรมชลประทานทั่วประเทศ บริหารจัดการน้ำให้เป็นไปตามแผนจัดสรรน้ำที่กำหนดไว้ พร้อมปฏิบัติตาม 10 มาตรการรองรับฤดูแล้งอย่างเคร่งครัด ตลอดจนวางแผนบริหารความเสี่ยง รองรับสถานการณ์ภัยแล้งในบางพื้นที่ไว้ล่วงหน้า เน้นย้ำน้ำอุปโภคบริโภคต้องเพียงพอตลอดฤดูแล้งนี้

สถานการณ์น้ำต้นทุนในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางทั่วประเทศ ณ วันที่ 2 เมษายน 2566 มีปริมาณน้ำรวมกัน 48,375 ล้านลูกบาศก์เมตร (ล้าน ลบ.ม.) หรือ 63% ของความจุอ่างฯ รวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 24,433 ล้าน ลบ.ม. เฉพาะ 4 เขื่อนหลักของลุ่มน้ำเจ้าพระยา (เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์) มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 14,864 ล้าน ลบ.ม. หรือ 60% ของความจุอ่างฯ รวมกัน เป็นน้ำใช้การได้ 8,168 ล้าน ลบ.ม.

ในส่วนของการเพาะปลูกข้าวนาปรัง ได้มีการวางแผนไว้ทั้งประเทศประมาณ 10.42 ล้านไร่ ณ วันที่ 22 เมษายน 2566 เพาะปลูกไปแล้ว 10.14 ล้านไร่ หรือ 97% ของแผนฯ เฉพาะลุ่มน้ำเจ้าพระยาวางแผนการเพาะปลูกข้าวนาปรังไว้ 6.64 ล้านไร่ เพาะปลูกไปแล้ว 6.37 ล้านไร่ หรือ 96% ของแผนฯ

Advertisement

นายประพิศกล่าวต่อว่า ภาพรวมปริมาณน้ำในปัจจุบัน ยังคงเป็นไปตามแผนจัดสรรน้ำที่กรมชลประทานได้กำหนดไว้ และยืนยันว่า น้ำจะเพียงพอสนับสนุนทุกกิจกรรมของการใช้น้ำไปจนตลอดฤดูแล้งนี้ เพราะได้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างประณีต มีการจัดรอบเวรการส่งน้ำ การปรับปฏิทินการเพาะปลูก เพื่อให้สามารถเก็บเกี่ยวได้ก่อนฤดูน้ำหลาก ซึ่งจะช่วยลดความสูญเสียของผลผลิตทางเกษตร

รวมถึงการวางแผนบริหารความเสี่ยงล่วงหน้า เพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งในบางพื้นที่ที่อาจเกิดขึ้นได้ จึงอยากขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ร่วมแรงร่วมใจช่วยกันใช้น้ำอย่างประหยัด และปฏิบัติตามแผนการจัดสรรน้ำอย่างรัดกุม เพื่อให้มีน้ำเพียงพอใช้ไปจนถึงต้นฤดูฝนและลดความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image