อุตฯเครื่องสำอางระส่ำ จ่อย้ายฐานผลิตหนีค่าไฟไทย วอนรัฐช่วยผู้ผลิต

อุตเครื่องสำอางระส่ำ จ่อย้ายฐานผลิตหนีค่าไฟ ส.อ.ท.เซ็งยอดขายกำลังพุ่งหลังคนไทยถอดหน้า บำรุงผิวเต็มที่ วอนรัฐช่วย

นายนาคาญ์ ทวิชาวัฒน์ กรรมการบริหาร และกรรมการคลัสเตอร์ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงาม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผย “มติชน” ถึงสถานการณ์ผลิตภัณฑ์สุขภาพและความงามปี 2566 ว่า จากการหารือกับผู้ประกอบการทั้งกลุ่มอาหารเสริม สมุนไพร ยาแผนโบราณ และกลุ่มความงาม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์บำรุง ได้รับการยืนยันว่ายอดขายดีขึ้นหลังโควิด-19 คลี่คลาย คนไทยเปิดหน้ากาก ดูแลผิวพรรณ แต่งหน้ามากขึ้น ขณะที่เทรนด์สุขภาพมาแรง นิยมผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สมุนไพร คาดว่ามูลค่าตลาดปีนี้รวมส่งออกจะกลับมามากกว่า 6 แสนล้านบาท สัดส่วนเครื่องสำอางประมาณ 70% ที่เหลือเป็นอาหารเสริม 30% รูปแบบการเติบโตจะเปลี่ยนแปลงไปไม่กระจุกตัวในกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่แต่กระจายในรายย่อยมากขึ้น เพราะเทรนด์เปลี่ยนไป มีผู้ประกอบการรายใหม่มากขึ้น กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ หรือผู้มีอิทธิพลบนสื่อโซเชียล เข้ามามีบทบาทช่วยสร้างการตลาดให้กับเจ้าของแบรนด์หน้าใหม่

“ปัจจุบันไทยยังเป็นเบอร์ 1 ฐานผลิตเครื่องสำอางของอาเซียน มีนวัตกรรมการผลิต เป็นเอส-เคิร์ฟที่ขยายตัวได้ดี มูลค่าตลาดรวมส่งออกกว่า 6 แสนล้านบาท เป็นตัวเลขเฉลี่ยที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก่อนจะลดลงในช่วงโควิด ดังนั้นทางกลุ่มจึงหวังให้กลับไปดังเดิม แต่หากมองภาพรวมอุตสาหกรรมพบว่าในอดีตเคยทำยอดขายและส่งออกสูงถึง 8 แสนล้านบาท หลักๆ มาจากเครื่องสำอาง แต่ระยะหลังฐานการผลิตเริ่มมูฟออกจากไทยเพราะต้นทุนการผลิตไทยเริ่มสูงขึ้น” นายนาคาญ์กล่าว

Advertisement

นายนาคาญ์กล่าวว่า ล่าสุดสถานการณ์ค่าไฟของไทยถือว่ากระทบหนัก จากเฉพาะอัตราเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2566 ที่ 4.77 บาทต่อหน่วย ทางกลุ่มได้ประสานผู้บริหารส.อ.ท.สะท้อนปัญหาไปยังรัฐบาลให้ช่วยเหลือโดยด่วน หากค่าไฟไม่ลด บวกกับราคาต้นทุนสินค้าต่างๆยังสูง จะยิ่งทำให้ผู้ผลิตหลายรายเริ่มลังเลและตัดสินใจย้ายฐานไปจากไทยอีก ซึ่งปัจจุบันเวียดนามและอินโดนีเซียกำลังดึงลงทุนอย่างหนัก ปัจจุบันมีหลายแบรนด์ระดับโลกมีฐานผลิตในไทยกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ อย่างแชมพูของไทยถือเป็นฐานผลิตอันดับ 2 ของโลก หากมีการย้ายฐานอันดับเหล่านี้หมดไป รวมทั้งเบอร์1ของอาเซียนด้านฐานผลิตเครื่องสำอางด้วย

 

 

Advertisement

อ่านข่าวน่าสนใจ:

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image