วันหยุด 6 เม.ย. ตลาดสดซื้อขายคึกคัก พณ.ชี้ราคาเนื้อสัตว์-ผักสด ตามกลไกตลาด กำชับค้าส่งป้อนสินค้าช่วงสงกรานต์
เมื่อเวลา เวลา 09.30 น. วันที่ 6 เมษายน นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์การจับจ่ายซื้อสินค้าของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ในตลาดเงินวิจิตร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ ว่า
จากการตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าในตลาด พบว่า เป็นไปด้วยความคึกคัก พ่อค้าแม่ค้า มีการจำหน่ายสินค้าได้เพิ่มขึ้น ประชาชนมาซื้อสินค้ากันเป็นจำนวนมาก และราคาสินค้าหลายรายการมีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง
“สินค้าในกลุ่มปศุสัตว์ ที่ภาพรวมปรับลดลงประมาณ 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าบางรายการจะปรับเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ภายในโครงสร้างราคาที่กรมฯ กำกับดูแล “
ทั้งนี้ หมูเนื้อแดง ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 153 บาท/กิโลกรัม (กก.) ลดลงจากปีก่อน 5% เนื้อไก่ แบ่งเป็นน่องไก่ติดสะโพก ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 72 บาท/กก. ลดลงจากปีก่อน 4% น่องไก่ ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 75 บาท/กก. ลดลง 1% สะโพก ราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 78 บาท/กก. เพิ่มขึ้น 1% และเนื้ออกทั่วประเทศ ราคาเฉลี่ย 78 บาท/กก. ลดลง 5% ขณะที่ไข่ไก่ เบอร์ 3 ราคาเฉลี่ย 3.78 บาท/ฟอง เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนและปีก่อนหน้า แต่ราคายังคงอยู่ ภายในโครงสร้างราคาของกรมฯ
ส่วนของผักสด มีการปรับราคาเพิ่มและลดตามสภาวะอากาศและภาวะตลาด โดยผักที่มีแนวโน้มปรับลดลงจากเดือนก่อน ได้แก่ ผักคะน้า ถั่วฝักยาว กะหล่ำปลี กวางตุ้ง ผักกาดขาวปลี ผักบุ้งจีน เป็นต้น ส่วนผักที่มีราคาเพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ ต้นหอม ผักชี พริกขี้หนูจินดา เป็นต้น โดยเป็นการปรับเพิ่มขึ้นในระยะสั้นจากผลกระทบของสภาพอากาศ ในส่วนของมะนาวราคายังคงที่จากเดือนก่อน โดยราคาเบอร์ 1-2 อยู่ที่ 4.95 บาทต่อลูก ซึ่งมะนาวในช่วงหน้าร้อน (มี.ค-เม.ย) จะมีราคาเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากปริมาณผลผลิตน้อย โดยจะกลับมาให้ผลผลิตมากในช่วงเดือนพฤษภาคม เป็นต้นไป
สำหรับราคาสินค้ากลุ่มปศุสัตว์ในตลาดเงินวิจิตร พบว่า มีราคาใกล้เคียงกับราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ ที่กรมฯ ได้ทำการสำรวจ โดยหมูเนื้อแดง 150 บาท/กก. น่องไก่ติดสะโพก 75 บาท/กก. น่องไก่ 75 บาท/กก. สะโพกไก่ 80 บาท/กก. ไข่ไก่เบอร์ 3 ฟองละ 3.9 บาท
นายกรนิจ กล่าวว่า กรมมีการจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบสถานการณ์การจำหน่ายสินค้าอย่างต่อเนื่อง และตรวจสอบให้คำรับรองเครื่องชั่งก่อนนำออกใช้ และตรวจสอบความเที่ยงตรงระหว่างการใช้งาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้บริโภค ขอฝากผู้ประกอบการให้ใช้เครื่องชั่งที่ถูกต้องได้มาตรฐานในการซื้อขายสินค้าและบริการ
หากพบการกระทำผิดก็จะดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด โดยมีโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 7 ปี และปรับไม่เกิน 280,000 บาท จึงขอแจ้งเตือนให้ผู้ประกอบการตรวจสอบและไม่นำเครื่องชั่งที่ผิดกฎหมายมาใช้ และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายให้ชัดเจน ห้ามฉวยโอกาสปรับขึ้นราคาโดยไม่เป็นธรรม หากตรวจพบจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด กรณีไม่ติดป้ายแสดงราคาจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ หากประชาชนพบเห็นการจำหน่ายสินค้าหรือบริการที่ไม่เป็นธรรม สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด
นายกรนิจ กล่าวว่า ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ที่มีประชาชนจำนวนมากเดินทางกลับบ้าน เพื่อไปเฉลิมฉลองปีใหม่ไทยกับพ่อแม่ญาติพี่น้อง และมีการจับจ่ายใช้สอยกันมากในการซื้ออาหารสดในตลาดเพื่อนำไปประกอบอาหาร กรมฯ มีนโยบายให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลการซื้อขายสินค้าและบริการเพื่อสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้บริโภค และได้ปริมาณที่ครบถ้วน ผ่านการใช้เครื่องชั่งที่ถูกต้อง เที่ยงตรง และมีมาตรฐาน รวมถึงการปิดป้ายแสดงราคาสินค้าที่ชัดเจน เพื่อป้องกันการฉวยโอกาสจากผู้ประกอบการ
“สมาคมตลาดสดไทย และสมาคมการค้าตลาดกลางค้าส่งสินค้าเกษตรไทย ขานรับมาตรการของกรมฯ ไม่ให้ตลาดเอาเปรียบผู้บริโภค กำชับผู้ค้าในตลาดให้มีการปิดป้ายแสดงราคาทุกตลาด หากพบการฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภคและไม่ปิดป้ายราคาจะมีมาตรการเข้มบทลงโทษตามขั้นตอน ตั้งแต่การทำทัณฑ์บน การปรับ และการให้หยุดจำหน่ายสินค้า และกรณีสินค้าประสบปัญหาขาดแคลน สมาคมตลาดกลางฯ พร้อมเป็นกลไกเชื่อมโยงสินค้ามาจำหน่ายให้แก่พี่น้องประชาชนให้เพียงพอตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์”นายกรนิจ กล่าว