สนค.กาง 13 สินค้าส่งออก ‘ดาวรุ่ง’ ผ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก
เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (ผอ.สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ได้ใช้ฐานข้อมูลที่สำนักงานฯ ได้พัฒนาขึ้น เพื่อศึกษาและจัดทำข้อมูลการส่งออกรายสินค้าที่ส่งออกโดยธุรกิจของคนไทยอย่างแท้จริง พบว่า ธุรกิจที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ 100% สร้างมูลค่าส่งออกให้แก่ประเทศในปี 2565 เป็นจำนวน 73,603.2 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 25.6% ของมูลค่าส่งออกรวม มีผู้ส่งออกทั้งสิ้น 15,337 ราย
โดยเป็นผู้ส่งออกที่ดำเนินธุรกิจในภาคการผลิต จำนวน 5,342 ราย มีมูลค่าส่งออก 37,029.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และผู้ส่งออกที่ดำเนินธุรกิจในภาคบริการ จำนวน 9,994 ราย มีมูลค่าส่งออก 34,834.7 ล้านเหรียญสหรัฐ และผู้ส่งออกที่ไม่สามารถระบุประเภทธุรกิจได้ จำนวน 1 ราย มีมูลค่าส่งออก 1,738.8 ล้านเหรียญสหรัฐ
ธุรกิจของคนไทยในภาคการผลิตที่สร้างมูลค่าส่งออกมากเป็น 5 อันดับแรก คือ
- ธุรกิจผลิตโลหะมีค่า เช่น ทองคำ
- ธุรกิจผลิตเม็ดพลาสติกและพลาสติกขั้นต้น
- ธุรกิจผลิตสตาร์ชมันสำปะหลัง
- ธุรกิจผลิตยางแผ่นและยางแท่ง
- ธุรกิจผลิตส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ
ขณะที่ธุรกิจของคนไทยในภาคบริการที่สร้างมูลค่าส่งออกมากเป็น 5 อันดับแรก คือ
- ธุรกิจขายส่งนาฬิกาและเครื่องประดับ
- ธุรกิจขายส่งข้าวและผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการสีข้าว
- ธุรกิจกิจกรรมของตัวแทนผู้รับจัดการขนส่งสินค้าและตัวแทนออกของ (ตัวแทนดำเนินพิธีการศุลกากร)
- ธุรกิจขายส่งเชื้อเพลิงเหลว
- ธุรกิจขายส่งผักและผลไม้
นอกจากนี้ ฐานข้อมูลของ สนค. ยังพบสินค้าส่งออกดาวรุ่งประจำปี 2565 จำนวน 13 รายการที่มีอัตราขยายตัวเป็นบวกต่อเนื่องทุกเดือน แม้ว่าจะเกิดวิกฤตต่างๆ มากมาย ตั้งแต่ความไม่สงบในยูเครนในช่วงต้นปี จนถึงปัญหาการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในช่วงกลางถึงท้ายปี ได้แก่
- โทรศัพท์และอุปกรณ์
- หม้อแปลงไฟฟ้าและส่วนประกอบ
- เครื่องประดับแท้
- ทองแดงและของทำด้วยทองแดงอื่นๆ
- เครื่องใช้สำหรับเดินทาง
- สีทาและวาร์นิช และวัตถุตกแต่งสีอื่นๆ
- ผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ทางเภสัชกรรม
- ส่วนประกอบและอุปกรณ์รถปิกอัพ รถบัส
- เนื้อและส่วนต่างๆ ของสัตว์ที่บริโภคได้
- วิสกี้
- อัญมณีสังเคราะห์
- ถุงมือหนัง เครื่องแต่งกายและเข็มขัด
- หัวน้ำหอมและน้ำหอม
การจัดทำข้อมูลดังกล่าวเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการนำไปใช้กำหนดนโยบายส่งเสริมการค้าให้แก่ธุรกิจของคนไทยได้ตรงกลุ่มเป้าหมายเพื่อช่วยผลักดันให้การส่งออกของผู้ประกอบการสัญชาติไทยมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา สนค.ได้จัดทำข้อมูลเหล่านี้ให้แก่ผู้บริหารหน่วยงานภายในกระทรวงพาณิชย์ได้ใช้ประโยชน์ รวมถึงให้แก่ภาคเอกชนได้ทราบข้อมูลการส่งออกไทยในมิติใหม่ๆ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินงานของภาคเอกชนต่อไป