ฟิลิปปินส์ให้สัตยาบันอาร์เซ็ป ชาติสุดท้าย เริ่มใช้ 2 มิ.ย.นี้ พณ.เผยเพิ่มโอกาสผลิตและส่งออกไทย

ฟิลิปปินส์ให้สัตยาบันอาร์เซ็ป ชาติสุดท้าย เริ่มใช้ 2 มิ.ย.นี้ พณ.เผยเพิ่มโอกาสผลิตและส่งออกไทย

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ฟิลิปปินส์ได้ยื่นสัตยาบันสารรับปฏิบัติตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ต่อสำนักเลขาธิการอาเซียน ซึ่งถือเป็นสมาชิกประเทศสุดท้ายที่ให้สัตยาบันความตกลง RCEP หลังจากสมาชิก 14 ประเทศ ได้แก่ บรูไนดารุสซาลาม กัมพูชา สปป.ลาว สิงคโปร์ ไทย เวียดนาม ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เมียนมา เกาหลีใต้ และมาเลเซีย ให้สัตยาบันความตกลงไปก่อนหน้านี้ โดยความตกลง RCEP จะมีผลบังคับใช้กับฟิลิปปินส์อย่างสมบูรณ์ ในวันที่ 2 มิถุนายนนี้ และถือว่าสมาชิกผู้ก่อตั้ง RCEP ทั้ง 15 ประเทศ ให้สัตยาบันความตกลงครบแล้ว

นางอรมน กล่าวว่า การให้สัตยาบันความตกลง RCEP ครั้งนี้ จะส่งผลให้ฟิลิปปินส์ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรในกลุ่มสินค้าสินค้าประมง พลาสติก แก้ว และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ฟิลิปปินส์ยังไม่ได้เปิดตลาดภายใต้ FTA อาเซียน-จีน อาเซียน-ญี่ปุ่น อาเซียน-เกาหลีใต้ และอาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ จึงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะสามารถเลือกใช้วัตถุดิบจากฟิลิปปินส์ในการผลิตสินค้า เพื่อส่งออกไปยังสมาชิก RCEP อื่นที่มิใช่อาเซียน รวมทั้งยังสามารถนำวัตถุดิบจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จีน ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มาใช้ในการผลิตสินค้าเพื่อส่งออกไปฟิลิปปินส์ ซึ่งจะได้รับการลดหรือยกเว้นการเก็บภาษีศุลกากรภายใต้ RCEP ดังนั้น ความตกลง RCEP จะมีผลใช้บังคับกับฟิลิปปินส์ในอีก 2 เดือนข้างหน้า จึงเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะสามารถขยายเครือข่ายการผลิตและการกระจายสินค้าในภูมิภาค RCEP ได้อีกด้วย

ทั้งนี้ ในปี 2565 ฟิลิปปินส์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 5 ของไทยในอาเซียน และเป็นอันดับที่ 14 ของไทยในโลก การค้าระหว่างไทยและฟิลิปปินส์ มีมูลค่า 11,217 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยส่งออกไปฟิลิปปินส์ มูลค่า 7,383 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้าจากฟิลิปปินส์ มูลค่า 3,834 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และเม็ดพลาสติก และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และส่วนประกอบและอุปกรณ์ยานยนต์

ADVERTISMENT

สำหรับปี 2565 การค้าไทยกับสมาชิก RCEP มีมูลค่า 327,286.99 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็น 55.45% ของการค้ารวมของไทยกับโลก ซึ่งไทยส่งออก มูลค่า 150,338.37 ล้านเหรียญสหรัฐ และไทยนำเข้า มูลค่า 176,948.62 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยไทยใช้สิทธิ์ส่งออกภายใต้ RCEP มูลค่า 994.77 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าที่ใช้สิทธิส่งออกสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่น ปลาทูน่ากระป๋อง มันสำปะหลังเส้น ทุเรียนสด และเลนส์สำหรับกล้องถ่าย เครื่องฉาย และไทยใช้สิทธิ์นำเข้าภายใต้ RCEP มูลค่า 479.06 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าที่ใช้สิทธิ์นำเข้าสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ ไม้อัดพลายวูด ด้ายไยยาวสังเคราะห์ องุ่นสดหรือแห้ง โพลิอะไมด์ในลักษณะขั้นปฐม และโซเดียมไฮดรอกไซด์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image