ทุ่ม 400 ล้าน พลิกโฉม ‘ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า’ สู่แลนด์มาร์กใหม่ ใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์

ทุ่ม 400 ล้าน พลิกโฉม ‘ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า’ สู่แลนด์มาร์กใหม่ ใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์

หลังจาก ‘ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า’ ศูนย์การค้าเก่าแก่ที่อยู่คู่คนกรุงมา 30 ปี นับจากปี 2536 ล่าสุดทุ่มงบกว่า 400 ล้าน ปรับโฉมใหม่ สู่ “ศูนย์กลางธุรกิจ-ไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้ง-บ้านพักอาศัย” ใจกลางเกาะรัตนโกสินทร์ และทำเลการค้า “พาหุรัด-ตรีเพชร-เจริญกรุง-บูรพา” ด้วยการดึงแบรนด์ดังมาเสริมทัพในส่วนพลาซ่าและศูนย์อาหาร สร้างสีสันในย่านนี้และรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี

นายอภิชัย สิริดำรงพันธุ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการกลุ่มธุรกิจอาคารพาณิชย์ บริษัท สยามสินธร จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทจะพัฒนา “ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า” ให้เป็นศูนย์กลางการค้าและช้อปปิ้งของผู้คนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ที่เดินทางเข้ามาติดต่อธุรกิจกับร้านค้าพันธมิตร หลังเปิดมา 30 ปี ในครั้งนี้จะเป็นอีกก้าวที่สำคัญกับแผนพัฒนาปรับโฉมใหม่

“ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า เป็นแหล่งธุรกิจที่มีเอกลักษณ์ เป็นศูนย์รวมร้านทองส่ง แหล่งผลิตเครื่องประดับ เพชร ปืน ผ้าไทย แหล่งรวมผ้าไหมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ นำเข้าผ้าลูกไม้จากต่างประเทศ ศูนย์รวมอาหาร ขนมไทยที่ขึ้นชื่อ และบ้านพักอาศัยที่อยู่สบายใจกลางเมืองติดรถไฟฟ้า นับเป็นโครงการมิกซ์ยูสแห่งแรกบนเกาะรัตนโกสินทร์ และเป็นพลาซ่าที่ใหญ่ที่สุดในทำเลนี้ บนที่ดิน 13.61 ไร่” นายอภิชัยกล่าว และว่า

Advertisement

นอกจากนี้ทำเลที่ตั้ง ยังมีความโดดเด่นอยู่ติดกับถนนสายการค้าทั้ง 4 ด้าน คือ พาหุรัด ตรีเพชร เจริญกรุง บูรพา ทำให้มีผู้คนไหลเวียนเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวชม สถานที่สำคัญใกล้เคียง อาทิ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ว ชมการแสดงโขนที่ศาลาเฉลิมกรุง แวะรับประทานอาหารและขนมไทยที่ศูนย์การค้า ขณะที่การเดินทางสะดวกสบาย ทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว ซึ่งมีบริการที่จอดรถมากกว่า 1,100 คัน หรือเดินทางโดยรถไฟฟ้า MRT สถานีสามยอด

สำหรับแผนพัฒนานั้น อภิชัยบอกว่า จะปรับพื้นที่ภายในและภายนอกทั้งหมด ทั้งในส่วนพลาซ่า และบ้านพักอาศัย โดยคงเอกลักษณ์ของอาคารในสไตล์โคโลเนียลที่มีความคลาสสิก บนพื้นที่ให้บริการ 98,500 ตารางเมตร

ในส่วนของพลาซ่า พื้นที่รวม 17,945 ตารางเมตร เตรียมออกแบบและตกแต่งให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น พร้อมปรับพื้นที่ร้านค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการทั้งลูกค้ากลุ่มธุรกิจ (B2B) และลูกค้ากลุ่มค้าปลีก (B2C)

Advertisement

โดยพื้นที่พลาซ่า ชั้น 1 ยังคงเป็นแหล่งรวมร้านเพชร ร้านทองส่งชั้นนำ ผ้าลูกไม้นำเข้า ร้านเครื่องประดับ และขนมไทยโบราณที่มีชื่อเสียงมายาวนาน

พื้นที่พลาซ่า ชั้น 2 เป็นศูนย์รวมผ้าไหม เครื่องประดับ ห้องเสื้อ ชุดราตรี ชุดแต่งงาน ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ

พื้นที่พลาซ่า ชั้น 3 พบกับโฉมใหม่ ศูนย์รวมร้านอาหารและมาร์เก็ต ที่เตรียมยกระดับให้เป็น Food Experience แห่งใหม่ของย่านนี้ ที่จำหน่ายสินค้าและให้บริการที่จะอำนวยความสะดวก และตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากขึ้น

ส่วนชั้น 4 เป็นพื้นที่บ้านพักอาศัย (Residence) ประกอบด้วย 128 ยูนิต ขนาดพื้นที่เริ่มต้น 95 ตารางเมตร แบบ Duplex 2 ห้องนอน ห้องรับแขกขนาดใหญ่ 1 ห้องครัว 2 ห้องน้ำ พื้นที่รวมทั้งหมด 13,000 ตารางเมตร เตรียมปรับโฉมในคอนเซ็ปต์ที่ทันสมัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ทั้ง Lobby, Outdoor Living, Meeting Room, Fitness และ Sky Pavilion โดยมุ่งไปที่กลุ่มคนทำงาน นักเรียน นักศึกษา ในพื้นที่ใกล้เคียง และกลุ่มครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตและการเดินทาง ในราคาเริ่มต้น 3.2 ล้านบาท

​“โฉมใหม่นี้ เรานำแนวคิดของการต่อยอดและสร้างโอกาสทางธุรกิจ โดยปรับรูปแบบการให้เช่าพื้นที่ ที่ครอบคลุมความต้องการ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการมีความคล่องตัว ทั้งแบบสัญญาเช่าระยะสั้นและระยะยาว เพื่อให้เอื้อต่อการทำธุรกิจและการพักอาศัย” นายอภิชัยกล่าว

พร้อมกับย้ำว่า จากประสบการณ์ของบริษัทที่พัฒนาโครงการ “เวลา สินธร วิลเลจ หลังสวน” ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ในการบริหารพื้นที่ ในการพัฒนา “ดิ โอลด์ สยาม พลาซ่า” ครั้งนี้บริษัทจะเติมสีสันให้กับผู้คนในย่านนี้ และผลักดันธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนอีกแห่งใจกลางเมือง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image