ไม่ไหวจะทน “คนไทย “หนีบ้านร้อนแห่เดินห้าง นักดริงก์หลบนั่งห้องแอร์

ไม่ไหวจะทน “คนไทย “หนีบ้านร้อนแห่เดินห้าง นักดริงก์หลบนั่งห้องแอร์

นายธนากร คุปตจิตต์ ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เปิดเผยว่า สภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว กำลังส่งผลต่อผู้ประกอบการเครื่องดื่มและสถานบันเทิง โรงแรม หรือร้านให้บริการดื่มกินทั่วไป ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายค่าไฟสูงเป็นเท่าๆตัว เพราะสถานบันเทิง โรงแรม หรือแม้ร้านอาหารทั่วไป ต้องมีตู้แช่อาหารแช่เครื่องดื่ม ภายในอาคารต้องติดแอร์ตลอดเวลาของการเปิดบริการ สถานบันเทิงต้องมีแสงและเสียงจากดนตรีให้บริการ ซึ่งอากาศร้อน 1 องศา มีผลต่อค่าไฟ 3% รวมถึงผลกระทบจากพฤติกรรมคนไทยหรือนักท่องเที่ยวลดการนั่งกินหรือดื่มบริเวณไม่ติดแอร์ หรือกลางแจ้ง (outdoor) ระบุนั่งในพื้นที่ติดแอร์แทน ทำให้พื้นที่การขายลดลง

“การค้าขายยังปกติ แต่บรรยากาศไม่เอื้ออำนวยจากภาวะอากาศร้อนอบอ้าว ที่ควรจะดีกว่านี้ จากที่ยอดขายหลังเปิดประเทศและยังอยู่ในช่วงพักผ่อนของนักท่องเที่ยวหรือคนไทยบ้างส่วน หายไปเกือบหมด แต่ก็ยังมีท่องเที่ยวกลางคืนพยุงได้แต่ก็ติดในเรื่องเวลาปิดที่ยังไม่ได้ขยายเวลาตามที่เคยเสนอไปก่อนหน้านี้ สำหรับแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยม เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ที่ยังขายได้ต่อเนื่องและยังดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 20-30% ด้วยยังอยู่ในช่วงบรรยากาศใกล้เลือกตั้ง ที่จะยังมีการสังสรรค์ และพบปะกันอยู่เป็นการทั่วไป แต่ร้านอาหารทั่วไปที่ขายอาหารและเครื่องดื่ม เมื่อหลบมานั่งแอร์ พื้นที่ขายก็ลดลง รายได้ที่ควรได้ก็จะลดลง แต่คงไม่อาจประเมินได้ว่าสูญเสียรายได้เท่าไหร่” นายธนากร กล่าว

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัล เปิดเผยว่า จากภาวะอากาศร้อนอบอ้าว ทำให้ประชาชนยังเข้าใช้บริการเพิ่มขึ้น โดยภาพรวมอย่างเซ็นทรัลเวิลด์หน้าร้อนนี้มีลูกค้าออกมาใช้บริการในศูนย์การค้าเพิ่มขึ้นประมาณ 10-15% จากภาวะปกติ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมาที่ ทางศูนย์จัดเทศกาลดนตรีระดับโลก และเป็นจุดเล่นน้ำใจกลางเมืองที่มีคนไทยและนักท่องเที่ยว ทั่วโลกเดินทางมาร่วมงานกว่า 200,000 คน/วัน

นายณัฐกิตติ์ กล่าวว่า สำหรับมาตรการช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง แบ่งออกเป็น 4 มาตรการ คือ 1. ระบบปรับอากาศ ปรับลดเวลาการใช้งานเครื่องตามเวลาการเปิดบริการศูนย์การค้าและสอดคล้องกับจำนวนผู้มาใช้บริการ 2.ระบบไฟฟ้าแสงสว่าง ภายในศูนย์การค้า ปรับลดการเปิดไฟล่วงหน้าก่อนเปิดให้บริการ และปิดไฟให้เร็วขึ้นหลังปิดให้บริการศูนย์การค้า (ยกเว้นโซนร้านอาหารและโรงหนัง ให้เปิดไว้ 70% จนกว่าลูกค้าจะกลับ) ส่วนในลานจอดรถ ปรับลดการเปิดไฟฟ้าแสงสว่างในช่วงกลางวัน ตามช่วงเวลาให้สอดคล้องกับสภาพแสงสว่างตามธรรมชาติ และปรับลดการเปิดไฟฟ้าแสงสว่างในพื้นที่ลานจอดรถที่ไม่มีผู้ใช้บริการ (ยกเว้นลานจอดที่จัดไว้สำหรับลูกค้าโรงหนัง ให้เปิดไว้ 50% จนกว่าลูกค้าจะกลับ) สำหรับรอบอาคาร เปิดระบบไฟฟ้าแสงสว่างรอบอาคารหลัง 18.00 น. และปรับลดการเปิดไฟฟ้าหลังปิดศูนย์เท่าที่จำเป็น เพื่อความปลอดภัยของทุกคน

3. ระบบลิฟท์และบันไดเลื่อน ปรับลดการเปิดใช้ล่วงหน้าก่อนเปิดให้บริการ และปิดให้เร็วขึ้นหลังปิดให้บริการศูนย์การค้า และ 4. ร่วมกันลดการใช้พลังงานในบริษัท ปรับลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาพักเที่ยง, ใช้บันไดขึ้น-ลงระหว่างชั้นแทนการใช้ลิฟท์ และเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าและหลอดไฟประหยัดพลังงาน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องเดินตามแผนงานประหยัดพลังงานอย่างยั่งยืน เตรียมการติดตั้ง Solar Rooftop และ Solar Street Light พร้อมใช้ระบบอัจฉริยะ สำหรับระบบไฟแสงสว่าง การติดตั้งฉนวนและฝ้าเสริมเพื่อลดความร้อนเข้าสู่ตัวอาคาร เปลี่ยน Chiller เป็นแบบ High Efficiency เป็นต้น

ADVERTISMENT

แหล่งข่าวจากสมาคมค้าปลีก กล่าวถึงสถานการณ์อากาศร้อนและค่าไฟตามบ้านเรือนแพงขึ้นว่า จากการติดตามผู้ประกอบการ ได้รับการยืนยันว่า ยอดคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยังเข้าใช้บริการในร้านค้าภายในศูนย์การค้า และในห้างสรรพสินค้า ต่อเนื่อง แม้วันหยุดยาวช่วงสงกรานต์เพิ่งผ่านไป โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์จะมีผู้บริโภคเข้าใช้บริการสูงตั้งแต่ช่วงสายของวัน หรือประมาณ 11.00 น.เป็นต้นไป จากเดิมมักเข้าห้างในช่วง 11.30-12.30 น. และอยู่ในห้าง ร้านค้า หรือศูนย์การค้า นานกว่าเดิม 30-40 นาที จากเดิมมักใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ก็เพิ่มเป็น 3-4 ชั่วโมง

“ยังไม่อาจประเมินรายได้ว่าเพิ่มหรือไม่ แค่ไหน กำลังดูว่าเข้าเพื่อหลบอากาศร้อน และใช้จ่ายเหมือนเดิม หรือ ใช้เวลานานขึ้น ก็ใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งก็คาดหวังว่าจะมียอดขายดีกว่าช่วงปกติหลังหมดเทศกาลประมาณ 3-5% แต่แง่จำนวนเชื่อว่าเพิ่มเกิน 10% แน่นอน ด้วยปีนี้ร้อนแรงและร้อนนาน ด้วยหลายปีที่้ผ่านมาก่อนสงกรานต์หรือหลังสงกรานต์จะมีฝนตกบ้างแล้วแต่ปีนี้ ยังไม่มีความชัดเจน อีกทั้งเป็นภาวะอบอ้าวไม่มีลม แม้เปิดพัดลมหรือแอร์แต่ก็เจอปัญหาค่าไฟแพงกว่าปกติ ทำให้ประชาชนหันเข้าร้านหรือห้างที่มีอากาศเย็นสบายกว่า” แหล่งข่าว กล่าว