‘พาณิชย์’ เผยส่งออก มี.ค.66 ติดลบ 4.2% เหตุราคาน้ำมัน-ศก.โลกผันผวน ฉุดการเติบโต
เมื่อวันที่ 26 เมษายน นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า การส่งออกของไทยในเดือนมีนาคม 2566 มีมูลค่า 27,654.4 ล้านเหรียญสหรัฐ (942,939 ล้านบาท) ติดลบ 4.2% หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว 0.01% โดยการส่งออกเดือนนี้หดตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ ทำมูลค่าสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี หรือมีมูลค่าอยู่ที่ 23,904.9 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีมูลค่าสูงสุดในรอบ 12 เดือน การส่งออกในภาคเศรษฐกิจที่แท้จริง ถือได้ว่าทำได้ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
โดยสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญหลายรายการมีสัญญาณที่ดีจากการกลับมาเป็นบวกในตลาดที่มีสัดส่วนสำคัญต่อการส่งออกของไทย อาทิ สหรัฐ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย อีกทั้งยังกลับมาเกินดุลการค้าในรอบ 12 เดือน
อย่างไรก็ตาม ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังมีความไม่แน่นอนจากภาวะเงินเฟ้อที่แม้จะผ่อนคลายลงแต่ยังคงทรงตัวในระดับสูง นอกจากนี้ การเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมายังคงส่งผลกระทบต่อภาคธนาคาร ภาคธุรกิจ และกำลังซื้อของประชาชน
ขณะที่การย่อตัวลงของราคาน้ำมันตามอุปสงค์ตลาดโลกที่ชะลอตัวส่งผลให้การส่งออกสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันปรับตัวลงต่อเนื่อง ทั้งนี้ การส่งออกไทยไตรมาสที่ 1/2566 ติดลบ 4.5% และเมื่อหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ติดลบ 0.9%
ขณะที่มูลค่าการค้าในรูปเงินเหรียญสหรัฐในเดือนมีนาคม 2566 การส่งออกมีมูลค่า 27,654.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 4.2% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 24,935.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 7.1% ดุลการค้า เกินดุล 2,718.8 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพรวมไตรมาสแรกของปี 2566 การส่งออกมีมูลค่า 70,280.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 4.5% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 73,324.3 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 0.5% ดุลการค้า ไตรมาสแรกของปี 2566 ขาดดุล 3,044.2 ล้านเหรียญสหรัฐ
ส่วนมูลค่าการค้าในรูปเงินบาท เดือนมีนาคม 2566 การส่งออกมีมูลค่า 942,939 ล้านบาท ขยายตัว 2.2% เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 860,535 ล้านบาท ติดลบ 1% ดุลการค้า เกินดุล 82,403 ล้านบาท ภาพรวมไตรมาสแรกของปี 2566 การส่งออกมีมูลค่า 2,373,189 ล้านบาท ติดลบ 1.1% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 2,508,390 ล้านบาท ขยายตัว 2.9% ดุลการค้า ไตรมาสแรกของปี 2566 ขาดดุล 135,201 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การส่งเสริมการส่งออกของกระทรวงพาณิชย์และแนวโน้มการส่งออกระยะถัดไป อาทิ การดำเนินงานตามมาตรการบริหารจัดการผลไม้เชิงรุก ปี 2566 เพื่อรับมือกับผลไม้ที่จะออกสู่ตลาด 6.78 ล้านตัน โดยแบ่งแผนงานออกเป็น 4 ด้าน คือ แผนการผลิต แผนการตลาดในประเทศ แผนการตลาดต่างประเทศ และแผนดูแลด้านกฎหมาย ผ่าน 22 มาตรการเชิงรุก
เช่น การดูแลมาตรฐานสินค้าเพื่อการส่งออก การช่วยเหลือดอกเบี้ยและเงินช่วยเหลือแก่ผู้ส่งออกผลไม้ การเจรจาและจับคู่ซื้อขายทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ รวมไปถึงการจัดงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติ เป็นต้น โดยตั้งเป้าส่งออกผลไม้ปีนี้ไว้ที่ 4.4 ล้านตัน
รวมถึงการอำนวยความสะดวกส่งสินค้าผ่านแดนไปยังจีน โดยคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ได้เดินทางไปสำรวจด่านรถไฟโม่ฮาน และได้หารือกับผู้บริหารด่านศุลกากร เพื่อขอให้ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งออกผลไม้ไทยเข้าสู่ตลาดจีน รองรับฤดูการผลิตผลไม้ไทยปี 2566 ที่กำลังจะออกสู่ตลาด พร้อมตรวจสอบพื้นที่ลานตรวจสอบจำเพาะของสินค้าผลไม้ เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการขนส่งในฤดูผลไม้ของไทยผ่านด่านสำคัญของจีน
นอกจากนี้ แนวโน้มการส่งออกในระยะถัดไป กระทรวงพาณิชย์ประเมินว่า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากแรงกดดันด้านอุปสงค์ ทั้งจากอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยในแต่ละภูมิภาคของโลกยังอยู่ในระดับสูง ภาวะวิกฤตของสถาบันการเงินยังเป็นปัจจัยบั่นทอนต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและภาคธุรกิจ รวมไปถึงความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ส่งผลต่อผันผวนของราคาพลังงาน
อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินงานของกระทรวงพาณิชย์ในไตรมาสแรกของปี 2566 ทั้งการรื้อฟื้นความสัมพันธ์และการเปิดตลาดใหม่ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และการทำความตกลงทางการค้าในระดับท้องถิ่นกับตลาดศักยภาพในจีน เกาหลีใต้ และอินเดีย ช่วยสนับสนุนการนำรายได้เข้าสู่ประเทศ และคาดว่าจะช่วยประคับประคองการส่งออกของไทยให้ผ่านพ้นภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกได้