เสียงสะท้อนค่าไฟพุ่ง เจ้าของ-ลูกจ้างควักอ่วม ธุรกิจใกล้เจ๊งเจอวิกฤตต้นทุนพุ่ง

เสียงสะท้อนค่าไฟพุ่ง เจ้าของโรงแรม-ลูกจ้างควักอ่วม ธุรกิจใกล้เจ๊งเจอวิกฤตต้นทุนพุ่ง

นางละเอียด บุ้งศรีทอง ที่ปรึกษาสมาคมโรงแรมไทย (ภาคเหนือตอนบน) เปิดเผยว่า ค่าไฟฟ้าที่ปรับขึ้นมาแพงมากนั้น อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหามาตรการ หรือวิธีทางลดค่าไฟ ลดภาระประชาชนลง เพราะค่าไฟสร้างผลกระทบรุนแรง ในส่วนของผู้ประกอบการโรงแรมขณะนี้พยายามลดการใช้ไฟฟ้า อาทิ อุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ อย่างไรก็ตาม เวลานี้ความเดือนร้อนไม่ใช่ผู้ประกอบการเท่านั้น แต่พนักงานโรงแรม ประชาชนทุกคนถูกกระทบด้วย จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยหาวิธีในการลดต้นทุนที่เป็นภาระส่วนนี้ลงบ้าง

“มีเสียงสะท้อนจากพนักงานของบริษัท ที่ปกติจ่ายค่าไฟอยู่ประมาณ 1,400-1,500 บาทต่อเดือน เดือนล่าสุดปรับขึ้นมาอยู่ที่ 2,800 บาท ถือว่าปรับขึ้นมาแพงมาก ซึ่งพนักงานก็มาบ่นมาเล่าให้ฟังกันหลายรายมาก ความกังวลในตอนนี้คือ ค่าไฟเดือนเมษายนที่ทยอยออกมา น่าจะเป็นเดือนที่สูงสุดแล้ว” นางละเอียดกล่าว

อ่าน ไม่รอด ผู้ว่าการ กฟผ.โชว์บิลค่าไฟพุ่ง 65% เหตุเปิดแอร์-เครื่องใช้ไฟฟ้าสู้ร้อน

Advertisement

นางละเอียดกล่าวว่า ปัจจุบันรัฐบาลสุญญากาศ อยู่ระหว่างการเลือกตั้งใหม่ จึงบังคับกลไกค่าไฟฟ้าไม่ได้ ทั้งที่ความจริงรัฐบาลน่าจะแก้ไขปัญหาต้นทุนเหล่านี้ได้ เพราะเป็นต้นทุนหลักที่มีผลกระทบกับการดำเนินชีวิตและการดำเนินธุรกิจ ปัจจุบันสัดส่วนค่าไฟฟ้าและค่าน้ำปะปาคิดเป็น 35% ของต้นทุนรวม ดังนั้นแม้ค่าไฟหรือค่าน้ำขึ้นมาเพียง 1% ก็กระทบกับธุรกิจมาก ขณะที่ต้นทุนอื่นปรับขึ้นทั้งหมด แต่ผู้ประกอบการไม่สามารถปรับราคาขายขึ้นได้ เพราะความต้องการ (ดีมานด์) ชะลอตัวลง จากอากาศร้อน รวมถึงฤดูกาลเฉพาะของภาคเหนือที่ช่วงเดือนเมษายนถึงต้นมิถุนายนเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (โลว์ซีซั่น)

“ภาพตอนนี้อาจไม่ได้หนักหน่วงเหมือนโควิด-19 ระบาดในช่วงที่ผ่านมา แต่วิกฤตต้นทุนที่แพงขึ้น โดยเฉพาะค่าไฟฟ้าถือเป็นผลกระทบที่ทำให้รายได้ลดลง จนธุรกิจแทบจะเอาตัวไม่รอดกันแล้ว” นางละเอียดกล่าว

 

Advertisement

 

อ่านข่าวน่าสนใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image