เอสซีจี โอดค่าไฟบั่นทอนขีดแข่งขันประเทศ เสียเปรียบเพื่อนบ้าน

เอสซีจี โอดค่าไฟบั่นทอนขีดแข่งขันประเทศ เสียเปรียบเพื่อนบ้าน เล็งทบทวนรายได้ปีนี้จากเป้าโต10%

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด(มหาชน) หรือเอสซีจี เปิดเผยว่า เอสซีจีกำลังติดตาม 3 ปัจจัยเสี่ยงกระทบธุรกิจ ได้แก่ 1.ความผันผวนของราคาพลังงาน อาทิ ค่าไฟ น้ำมัน ที่เป็นต้นทุนการผลิตภาคอุตสาหกรรม บั่นทอนขีดความสามารถในการแข่งขัน ทำให้ไทยเสียเปรียบประเทศเพื่อนบ้านในอาเชียน อีกทั้งทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น กำลังซื้อหดตัวลง

2.ความเสี่ยงภัยแล้ง สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (สสน.) คาดการณ์ปี 2566-2567 ปริมาณฝนอาจน้อยกว่าปกติ และฝนทิ้งช่วงมากขึ้น โดยจะเข้าสู่ปรากฏการณ์เอลนีโญ ทำให้ไทยเสี่ยงจะเกิดภัยแล้งรุนแรงข้ามปี ส่งผลกระทบทั้งภาคประชาชน การผลิต อุตสาหกรรม เกษตร และท่องเที่ยว ที่เป็นเสาหลักของเศรษฐกิจไทย

และ 3.สถานการณ์ฝุ่นละออง (พีเอ็ม 2.5) ที่สูงเกินมาตรฐานในประเทศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว และภาพรวมเศรษฐกิจ เป็นเรื่องเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันหาทางออก เพื่อรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจไทยต่อเนื่อง

Advertisement

ล่าสุดบริษัทอยู่ระหว่างทบทวนเป้าหมายรายได้ปี 2566 จากเดิมตั้งเป้าหมายเติบโตไว้ 10% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังมีความเปราะบาง จากภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปชะลอตัว รวมถึงอาเซียนยังฟื้นตัวไม่ชัด ราคาพลังงานยังมีความผันผวนสูง อัตราดอกเบี้ยและเงินเฟ้อยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลกระทบต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ในบางประเทศ อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในต่างประเทศที่มีสัดส่วนรายได้กว่า 40% ของรายได้ทั้งหมดของบริษัท

“ยอมรับว่าปีนี้เหนื่อย เป้าหมายรายได้ที่คาดไว้จะโต 10% ไม่ง่าย เพราะเศรษฐกิจโลกและอาเซียนยังมีปัจจัยเสี่ยงมาก”นายรุ่งโรจน์ กล่าว

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/2566 (ไม่นับรวมรายการพิเศษ) คาดจะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/2566 เนื่องจากมีการนำพลังงานทดแทนเข้ามาใช้แทนถ่านหิน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากขึ้น ขณะที่ต้นทุนพลังงานบางอย่างลดลง เช่น ถ่านหิน รวมทั้งมีการปรับปรุงเครื่องจักร เป็นต้น สำหรับผลประกอบการเอสซีจี ไตรมาส 1/2566 มีรายได้ 128,748 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน 5% กำไร 16,526 ล้านบาท ซึ่งรวมกำไรจากการปรับมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน SCG Logistics จากการรวมธุรกิจ SCGJWD Logistics ของธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำนวน 11,956 ล้านบาท

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image