นายวิน วิริยประไพกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) ในฐานะตัวแทน 7 สมาคมผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเหล็กไทย กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ผลิตเหล็กของไทยในปีนี้ยังคงย่ำแย่จากการที่เหล็กของจีนเข้าทุ่มตลาด ซึ่งแม้ปีที่ผ่านมารัฐบาลจีนจะประกาศลดกำลังการผลิต แต่ปรากฏว่าในปีนี้จะผลิตได้ประมาณ 739 ล้านตัน สูงกว่าปีก่อนที่ผลิตได้ 730 ล้านตัน เนื่องจากประเทศจีนมีการปิดโรงงานเหล็กเก่าขนาดเล็ก แต่กลับมีการตั้งโรงงานเหล็กขนาดใหญ่ขึ้นทดแทน ทำให้ปริมาณเหล็กไม่ได้ลดลงตามที่กล่าวอ้าง จึงไม่ช่วยให้สถานการณ์เหล็กโลกดีขึ้น ประกอบกับจีนยังคงให้การอุดหนุนด้านการเงินเพื่ออุ้มไม่ให้โรงงานเหล็กต้องปิดตัว และให้การอุดหนุนด้านอื่นๆ เพื่อคงสภาพการจ้างงานในโรงงานเหล็ก เพราะหากโรงเหล็กต้องปิดตัวลงจะกระทบกับแรงงานและภาพรวมเศรษฐกิจจีนอย่างมาก คาดว่าในปีหน้าความต้องการเหล็กภายในประเทศจีนจะลดลง ทำให้มีเหล็กจีนทะลักเข้าสู่ตลาดโลกเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะไทยที่นำเข้าปริมาณมาก
“ในรอบ 10 เดือนที่ผ่านมา ไทยนำเข้าเหล็กจากจีนแล้วประมาณ 5 ล้านตัน และคาดว่าทั้งปีจะมีจำนวน 6 ล้านตัน คิดเป็น 1 ใน 3 ของการใช้เหล็กไทยทั้งประเทศที่มีประมาณ 15 ล้านตัน ทำให้โรงงานเหล็กของไทยทั้งหมดได้รับผลกระทบอย่างหนัก ใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยเพียง 30-35%” นายวินกล่าว
นายวินกล่าวว่า ทางออกของผู้ประกอบการเหล็ก คือการร่วมกับภาครัฐในการออกมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) การออกมาตรฐานป้องกันเหล็กคุณภาพต่ำเข้าประเทศ และการตรวจจับเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐาน และลักลอบเลี่ยงภาษี ซึ่งหากดำเนินการควบคุมกับทั้ง 3 หน่วยงาน ก็เชื่อว่าจะทำให้ผู้ผลิตภายในประเทศยังสามารถดำเนินกิจการต่อไปได้
