‘แอตต้า’ จี้ขอความชัดเจนลิมิตวีซ่าจีนเที่ยวไทย หลังถูกคอมเพลนไม่หยุด
นายศิษฎิวัชร ชีวรัตนพร นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) เปิดเผยว่า จากกรณีบริษัททัวร์จีนหากจะยื่นขอวีซ่าให้กับลูกทัวร์ผ่านระบบตรวจตราคนต่างด้าวที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทยหรือวีซ่า ภายในวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 จะสามารถยื่นได้ไม่เกิน 20-30 รายต่อครั้งเท่านั้น จากก่อนหน้านี้สามารถยื่นได้แบบไม่จำกัดนั้น ต้องยอมรับว่าสมาคมฯได้รับการร้องเรียน (คอมเพลน) จากผู้ประกอบการทั้งคนไทยและชาวจีน ที่ทำทัวร์ท่องเที่ยวของตลาดจีนอย่างต่อเนื่อง เพราะขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามา และการจำกัดจำนวนต่อครั้ง ถือว่าเป็นอุปสรรคในการทำธุรกิจทัวร์นำเที่ยวสูงมาก
นายศิษฎิวัชรกล่าวว่า การกำหนดรายละเอียดกฎเกณฑ์ในการทำวีซ่า และการเดินทางเข้าประเทศไทยนั้น อยากให้มีความชัดเจนมากที่สุด รวมถึงก่อนจะออกกฎอะไรออกมาอยากให้มองถึงขั้นตอนการใช้จริง และความสะดวกในการปฏิบัติด้วย เพราะขณะนี้ประเทศไทยต้องเพิ่งพารายได้จากภาคการท่องเที่ยว อยู่ในช่วงของการฟื้นตัวทั้งท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศ เราต้องกระตุ้นให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา โดยเฉพาะตลาดจีน ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของไทย ทำให้เมื่อมีกฎเกณฑ์ที่เพิ่มขั้นตอนยุ่งยากในการเดินทางเข้าไทย ก็จะเป็นการผลักดันให้นักท่องเที่ยวหนีไปเที่ยวประเทศอื่นแทน
นายศิษฎิวัชรกล่าวว่า ไม่ใช่ว่าผู้ประกอบการไม่อยากจ่ายค่าทำวีซ่าตรวจลงตราที่ประเทศไทย หรือ Visa on Arrival (VOA) ประมาณ 2,000 บาท เพราะความจริงแล้วการทำวีซ่าที่สถานทูตหรือสถานกงสุลในจีนก็ไม่ได้มีราคาแตกต่างกันมากนัก ราคาต่ำสุดอยู่ที่ 350 หยวน หรือประมาณ 1,700 บาท ซึ่งก็เกือบเท่ากับการทำวีซ่าวีโอเอแล้ว แต่เพราะขั้นตอนที่ยุ่งยากมากกว่ากัน จึงเป็นที่มาของการถูกคอมเพลนอย่างต่อเนื่อง
“ตามธรรมดาแล้วการส่งเสริมการท่องเที่ยวก็ต้องตั้งเงื่อนไขที่อำนวยความสะดวกในการเข้ามาท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะหากตั้งเงื่อนไขเยอะเกิน ผู้ประกอบการทัวร์ก็ทำงานลำบาก ซึ่งบริษัทขนาดใหญ่มีตัวเลือกเยอะ ต้องทำวีซ่าแต่ละครั้งในจำนวนมากๆ พอเงื่อนไขหรือขั้นตอนที่เพิ่มขึ้นจนเกินไป เขาก็เลือกไปทำตลาดอื่นแทน ทำให้ภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะตลาดจีนที่คาดว่าจะฟื้นตัวได้นั้น อาจไม่เป็นไปตามที่คาดไว้” นายศิษฎิวัชรกล่าว
