เงินบาทอ่อนค่าที่ 34.20 ตลาดรอลุ้นผลประชุมเฟด คาดเคาะดอกเพิ่ม 0.25%

แฟ้มภาพ

เงินบาทอ่อนค่าที่ 34.20 ตลาดรอลุ้นผลประชุมเฟด คาดเคาะดอกเพิ่ม 0.25%

เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.20 บาทต่อเหรียญสหรัฐ อ่อนค่าลงจากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 34.13 บาทต่อเหรียญสหรัฐ มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ที่ระดับ 33.80-34.50 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.05-34.30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ

ในช่วงคืนวันจันทร์ที่ผ่านมาเงินบาทมีจังหวะอ่อนค่าใกล้โซน 34.25 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ตามการแข็งค่าของเงินเหรียญสหรัฐและโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังดัชนีภาคการผลิตอุตสาหกรรมของสหรัฐ (ISM PMI) ปรับตัวขึ้นดีกว่าคาด ก่อนจะกลับมาแข็งค่าขึ้นตามการย่อตัวลงของเงินเหรียญสหรัฐ สำหรับสัปดาห์ที่ผ่านมา รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทเทคใหญ่ในสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด ได้ช่วยหนุนให้ตลาดการเงินกล้าเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น

นายพูนกล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ผู้เล่นในตลาดควรเตรียมรับมือความผันผวนในสัปดาห์ที่ตลาดจะเผชิญทั้งการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) (รู้ผลการประชุมในช่วง 01.00 น.วันที่ 4 พฤษภาคม ตามเวลาในประเทศไทย) ประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐที่ถึงจะชะลอลง แต่ก็ยังคงอยู่ในระดับสูง และยังมีแรงหนุนเงินเฟ้อจากภาพตลาดแรงงานสหรัฐที่ยังคงแข็งแกร่งและตึงตัวอยู่จะทำให้เฟดตัดสินใจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 5.00%-5.25%

Advertisement

นอกจากนี้ ตลาดจะติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% โดย Deposit Facility Rate จะปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.50% (ตลาดมองว่าอีซีบีจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%) พร้อมรอลุ้นรายงานยอดการจ้างงานนอกภาคเกษตรกรรมสหรัฐและรายงานผลประกอบการ

นายพูนกล่าวด้วยว่า สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทประเมินว่าอาจแกว่งตัวแคบในกรอบเดิมต่อ โดยปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าอาจมาจากโฟลว์ธุรกรรมจ่ายเงินปันผลให้กับนักลงทุนต่างชาติ โฟลว์ซื้อเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) และโฟลว์ซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว

อย่างไรก็ดี ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดทยอยรับรู้ผลการประชุมเฟดและอีซีบี ซึ่งเป็นวันหยุดของตลาดการเงินไทย ในเชิงเทคนิคัล เส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน (แถว 34.30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ) ยังคงเป็นแนวต้านแรกของเงินบาท ส่วนแนวรับสำคัญจะเป็นโซน 33.80-34.00 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ซึ่งยังคงเห็นผู้เล่นบางส่วนทยอยซื้อเงินเหรียญสหรัฐในโซนดังกล่าว

Advertisement

ด้านเงินเหรียญสหรัฐมีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อได้ หากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด หนุนให้ผู้เล่นในตลาดเริ่มเชื่อว่าเฟดอาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ (จับตาว่าดัชนีเงินเหรียญสหรัฐ DXY จะสามารถปรับตัวขึ้นทะลุโซนแนวต้านแถว 102.5 จุด ได้หรือไม่) อย่างไรก็ดี เงินเหรียญสหรัฐอาจอ่อนค่าลงได้เร็ว หากเฟดส่งสัญญาณเตรียมหยุดขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่อีซีบีกลับย้ำจุดยืนพร้อมเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง

“คงคำแนะนำว่าในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน” นายพูนกล่าว

ทั้งนี้ ด้านเศรษฐกิจฝั่งไทยประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไป CPI เดือนเมษายน อาจชะลอลงสู่ระดับ 2.55% ตามการปรับตัวลดลงของราคาพลังงานและราคาเนื้อสัตว์ อย่างไรก็ดี ราคาสินค้าและบริการอื่นๆ ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจและต้นทุนที่ยังสูงอยู่ ซึ่งอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ก็อาจทรงตัวที่ 1.75% ทั้งนี้ แม้อัตราเงินเฟ้อจะชะลอลงแต่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 2.00%

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image