ที่กระทรวงพาณิชย์ นายทศพล ทังสุบุตร รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยภายหลังเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายไทย หารือกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (ยูเอสทีอาร์) เรื่อง สถานการณ์คุ้มครองและป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของไทย ว่า ผู้แทนยูเอสทีอาร์แจ้งว่า ได้รับทราบถึงความคืบหน้าการดำเนินการของไทยอย่างชัดเจนในหลายเรื่อง ซึ่งเป็นประโยชน์ในการพิจารณาประเมินสถานะของประเทศคู่ค้า โดยยูเอสทีอาร์ จะเปิดรับฟังความคิดเห็นของภาคเอกชนเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐฯ ช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์2560 และจะประกาศผลการพิจารณาประเมินสถานะของไทยในช่วงปลายเดือนเมษายน 2560
ทั้งนี้ ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2559 ไทยอยู่ในบัญชีรายชื่อประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษหรือพีดับบลิวแอล ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญและได้จัดทำแผนการทำงานด้านทรัพย์สินทางปัญญา ร่วมกับสหรัฐฯ เพื่อผลักดันให้สหรัฐฯถอดไทยออกจากบัญชีพีดับบลิวแอลมาโดยตลอด ประกอบด้วย จับกุมผู้ค้ารายใหญ่ ทลายแหล่งผลิตและแหล่งเก็บสินค้า ตัดเส้นทางการลำเลียงสินค้า จับกุมผู้กระทำละเมิดผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ต และ โซเชียลมีเดีย เช่น ผู้ค้าสินค้าปลอมผ่าน Facebook Live ขอความร่วมมือเจ้าของพื้นที่ขายสินค้าสอดส่องดูแล รวมถึงทบทวนกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แก้ไขปัญหางานค้างสะสม และเตรียมการเข้าร่วมความตกลงระหว่างประเทศ เช่น พิธีสารมาดริดว่าด้วยการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าระหว่างประเทศ และความตกลงกรุงเฮกว่าด้วยการจดทะเบียนการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมระหว่างประเทศ และจัดรณรงค์สร้างจิตสำนึกด้านทรัพย์สินทางปัญญาทุกภูมิภาค เพื่อสร้างจิตสำนึกลด ละ เลิก ซื้อหรือขายของละเมิด
“ ประชาชนสามารถมีส่วนช่วยในการผลักดันให้สหรัฐฯ ถอดไทยออกจากบัญชีประเทศที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา301พิเศษ โดยเริ่มต้นจากตนเอง ในการไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่ใช้สินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา รวมทั้ง ช่วยสอดส่องดูแล และเสริมสร้างความเข้าใจให้แก่บุคคลรอบข้าง ชุมชน และสังคม ไม่ให้สนับสนุนสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา อันเป็นแนวทางป้องกันการละเมิดตั้งแต่ต้นทาง และมีส่วนช่วยในการผลักดันให้ไทยหลุดจากพีดับบลิวแอล “ นายทศพล กล่าว