‘เซเว่น’ โชว์รายได้Q1 พุ่ง 2.2 แสนล้าน ทุ่ม 1.3 หมื่นล้าน ผุดสาขาใหม่ในไทย กัมพูชา ลาว

‘เซเว่น’ โชว์รายได้Q1 พุ่ง 2.2 แสนล้าน ทุ่ม 1.3 หมื่นล้าน ผุดสาขาใหม่ในไทย กัมพูชา ลาว

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม บริษัท ชีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือCPALL รายงานผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 1 ปี 2566 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

โดยบริษัทและบริษัทย่อย มีรายได้รวม 222,372 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นร้อยละ 11.2 มีสาเหตุมาจากการปรับเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายและบริการของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ รวมถึงธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ที่ธุรกิจแม็คโครและโลตัสส์นั้นมีการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการดีขึ้นเช่นกัน

ตามการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของ กิจกรรมทางเศรษฐกิจ การบริโภคภายในประเทศ และการท่องเที่ยว
นอกจากนี้กลยุทธ์ 020 ของแต่ละหน่วยธุรกิจยังคงเป็นปัจจัยสนับสนุนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย

Advertisement

ส่วนกำไรขั้นต้นจากการขายและบริการอยู่ที่ 46,913 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน มีสาหตุหลักมาจากรายได้จากการขายและบริการของทุกกลุ่มธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจแม็คโครที่ปรับเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นในงบการเงินรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 21.7 จากร้อยละ 21.5 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจำนวน 4,123 ล้านบาท

สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้อในช่วงไตรมาส 1 ปี 2566 ได้เปิดร้านสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 209 สาขา ทำให้บริษัทมีจำนวนร้านสาขาทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 14,047 สาขา แบ่งเป็น

1.ร้านสาขาบริษัท 7,019 สาขาหรือร้อยละ 50 ร้านเปิดใหม่สุทธิ 180 สาขา ในไตรมาสนี้

Advertisement

2.ร้าน SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 7,028 สาขาหรือร้อยละ 50 ร้านเปิดใหม่สุทธิ 29 สาขา ในไตรมาสนี้ โดยร้านสาขาส่วนใหญ่ยังเป็นร้านที่ตั้งเป็นเอกเทศ ซึ่งประมาณร้อยละ 86 ของสาขาทั้งหมด และส่วนที่เหลือเป็นร้านในสถานีบริการน้ำมัน ปตท.

ในไตรมาส 1 ปี 2566 ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการรวม 94,634 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ในไตรมาสนี้มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวัน เท่ากับ 78,735 บาท และยอดขายเฉลี่ยของร้านสาขาเดิมเพิ่มขึ้นเท่ากับร้อยละ 8.0 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดซื้อต่อบิลโดยประมาณ 84 บาท ในขณะที่จำนวนลูกค้าต่อสาขาต่อวันเฉลี่ย 941 คน

ทั้งนี้ลูกค้ามีจำนวนเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุมาจากการบริโภคในประเทศเริ่มฟื้นตัว ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่งประเทศที่เริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน จากสถานการณ์ดังกล่าวธุรกิจร้านสะดวกซื้อได้ปรับแผนกลยุทธ์เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป โดยคำนึงถึงการรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ โดยนำเสนอสินค้าใหม่ๆพร้อมกับโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า ประกอบกับรายได้จากการขายสินค้าส่วนเพิ่มผ่านกลยุทธ์ 020 อาทิ 7-Eleven Delivery ,ออนไลน์ เป็นต้น

สำหรับแผนในปี 2566 บริษัทวางแผนที่จะลงทุนเปิดร้านสาขาใหม่ในประเทศไทยอีกประมาณ 700 สาขาและมีเป้าหมายที่จะเปิดร้านสาขาในประเทศกัมพูชาให้ครบ 100 สาขา รวมถึงเปิดสาขาแรกใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในปี 2566

โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 12,000-13,000 ล้านบาท แบ่งเป็นใช้ในการเปิดร้านสาขาใหม่ 3,800-4,000ล้านบาท, การปรับปรุงร้านเดิม 2,900-3,500 ล้านบาท, โครงการใหม่, บริษัทย่อยและศูนย์กระจายสินค้า 4,000-4,100 ล้านบาท และลงทุนสินทรัพย์ถาวร และระบบสารสนเทศ 1,300-1,400ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image