กกพ. ส่งหนังสือกระทุ้ง “สุพัฒนพงษ์” ลดค่าก๊าซฯ กดค่าไฟช่วยประชาชน

กกพ. ส่งหนังสือกระทุ้ง “สุพัฒนพงษ์” ลดค่าก๊าซฯ กดค่าไฟช่วยประชาชน

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อเร็วๆนี้ นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้ทำหนังสือถึง นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เรื่อง แนวทางการลดราคาค่าก๊าซธรรมชาติเพื่อลดค่าไฟฟ้าให้แก่ประชาชน โดยมีข้อความระบุว่า

ด้วยคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ในการประชุมครั้งที่ 8/255 (ครั้งที่ 163) เมื่อวันที่ 25 พ.ย.2565 ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ไปศึกษาหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติให้สอดคล้องกับกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดแนวทางการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยให้เหมาะสมต่อไป

ในการนี้ กกพ. ในการประชุมเมื่อวันที่ 26 เม.ย.2566 ได้พิจารณาประเด็นดังกล่าวแล้วเห็นว่า ปัจจุบันตาม “ประกาศคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน เรื่อง หลักเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าบริการก๊าซธรรมชาติสำหรับผู้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ พ.ศ.2564” ได้จำแนกโครงสร้างราคาขายส่งก๊าซธรรมชาติสำหรับการซื้อขายก๊าซธรรมชาติระหว่าง ปตท. กับโรงแยกก๊าซธรรมชาติ ให้ใช้ราคาเฉลี่ยของเนื้อก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่ส่งเข้าระบบส่งก๊าซธรรมชาตินอกชายฝั่ง (Gulf Gas) ส่งผลให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติ ได้สิทธิในการใช้ก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยซึ่งมีต้นทุนราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับแหล่งอื่นๆ

Advertisement

ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยเกิดประโยชน์สูงสุด สร้างความเป็นธรรมต่อผู้ใช้ก๊าซในทุกภาคส่วนจึงเห็นควรมีข้อเสนอแนะเชิงนโยบายให้มีการปรับราคาก๊าซธรรมชาติที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติ โดยให้โรงแยกก๊าซธรรมชาติใช้ราคา Pool Gas ซึ่งเป็นราคารวมก๊าซธรรมชาติจากแหล่งอื่นๆด้วย ส่งผลให้ราคา Pool Gas โดยรวมลดลง ทำให้ต้นทุนในการผลิตไฟฟ้าลดลง อีกทั้งเพื่อให้ ปตท. บริหารจัดการวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรมปีโตรเคมีอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา หากเห็นชอบ กกพ. ร่วมกัน สนพ. และ ปตท. จะได้ดำเนินการศึกษาหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติจากอ่าวไทยที่เข้าและออกจากโรงแยกก๊าซธรรมชาติให้เหมาะสมและรายงานผลการศึกษาต่อ กบง. ทราบตามมติ กพช. ต่อไป

อย่างไรก็ดี ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2566 ที่ผ่านมา ครม.พิจารณาเห็นว่าในระยะที่ผ่านมากระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้นมาเป็นระยะอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของกลุ่มเปราะบาง การดำเนินมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวยังมีข้อจำกัดหลายประการทำให้ไม่สามารถให้การช่วยเหลือดูแลประชาชนในกลุ่มเปราะบางได้อย่างเหมาะสมและครอบคลุม

ดังนั้น ครม. จึงมีมติมอบหมายให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมของโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าในภาพรวม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบางและผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มอื่น ๆอย่างครอบคลุม เพื่อให้อัตราค่าไฟฟ้าสะท้อนต้นทุนที่แท้จริงและมีกลไกในการสนับสนุนการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้แก่กลุ่มเปราะบางที่เหมาะสมและไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณเกินความจำเป็น

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image