อสังหาพัทยาชี้ ‘อีอีซี’ จุดขายปท.ไทย มั่นใจไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ต้องเดินหน้าต่อ เร่งปั๊มผลงาน

อสังหาพัทยาชี้ ‘อีอีซี’ จุดขายปท.ไทย มั่นใจไม่ว่าใครเป็นรัฐบาล ต้องเดินหน้าต่อ เร่งปั๊มผลงาน

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม นายคริส เชิดสุริยา ประธานที่ปรึกษากรรมการบริหารบริษัท ออเนอร์กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในพัทยา เปิดเผยว่า ไม่ว่าพรรคไหนมาเป็นรัฐบาลยังมั่นใจว่าโครงการขนาดใหญ่ด้านโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) ทั้งสนามบิน ท่าเรือ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน จะได้รับการเดินหน้าต่อถึงแม้จะเป็นโครงการในช่วงรอยต่อระหว่างรัฐบาลเก่าและรัฐบาลใหม่ เพราะอีอีซีและภาคตะวันออกเป็นจุดขายของประเทศไทยในการดึงนักลงทุนเข้ามา ขณะนี้มีนักลงทุนชาวจีนเข้ามาลงทุนด้านยานยนต์และแบตเตอร์รี่แล้ว

“อีอีซีเป็นกฎหมายไปแล้ว มันมั่นคง ถ้าต่อจิ๊กซอว์การลงทุน 3-4 โครงการนี้ได้สำเร็จ ไม่ว่าสนามบิน ท่าเรือ รถไฟความเร็วสูง ที่ได้มีการเซ็นสัญญาไปแล้ว เชื่อว่าทุกพรรคการเมืองที่เข้ามา ไม่มีอะไรต้องลังเลที่จะทำให้ไม่ผลักดันต่อ เพราะมีการปูทาง ใส่พานมาแล้วโดยรัฐบาลที่แล้ว รอให้ทุกอย่างเข้าสู่ระบบ จะเป็นผลงานที่ดี เชื่อว่าทุกรัฐบาลต้องผลักดันต่อ” นายคริส กล่าว

นายคริสกล่าวว่า อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าโครงการล่าช้าไประดับหนึ่ง อาจจะด้วยสภาวะโควิด ทำให้เป็นอุปสรรค อย่างรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ยังมีปัญหาเรื่องส่งมอบพื้นที่ช่วงที่ยากที่สุด คือ ช่วงสุวรรณณภูมิถึงดอนเมือง แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเดินหน้าโครงการ เชื่อว่าไม่มีรัฐบาลไหนปฎิเสธการพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูง และเชื่อว่ารัฐบาลและเอกชนผู้ลงทุน มีความต้องการจะเดินหน้า เพราะอยากให้เศรษฐกิจของประเทศขยายตัว เนื่องจากถ้าไม่เกิดการลงทุน การจ้างงานจีดีพีก็ไม่เติบโต ซึ่งการผลักดันโครงการอาจจะมีอุปสรรค ทำให้ล่าช้าไปบ้าง แต่มั่นใจไ่ม่เกิน 4-5 ปีนี้ ได้นั่งรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินแน่นอน

Advertisement

สำหรับสิ่งที่อยากให้รัฐบาลใหม่ทำทันทีใน 100 วัน นายคริสกล่าวว่า อยากให้รัฐบาลสนับสนุนในแง่ของการตลาดทำให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับโลก ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะที่เหลือเชื่อว่าเอกชนเก่งอยู่แล้ว ไม่ว่าออกแบบก่อสร้างและพัฒนา แต่การจะทำให้คนต่างชาติมองประเทศเรา บางทีภาคเอกชนอาจจะทำไม่ได้

นายคริสกล่าวว่า ด้วยภาพลักษณ์ของประเทศที่ผ่านโควิดมาได้ด้วยดีแล้ว ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐมีการผ่อนผัน ผ่อนปรน กฎระเบียบต่างๆ ที่ทำให้ต่างชาติมีศักยภาพเข้ามามากขึ้น เช่น ลดภาษีในบางรายการ ให้ต่างชาติซื้อบ้านได้ รวมถึงให้การลงทุนด้านกาสิโนได้ เอาทุกอย่างเอาขึ้นบนดินให้หมด แต่ก็ต้องมีการคัดกรองด้วย เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องทุนสีเทา

Advertisement

“ผมอยากให้เป็นเรื่องจริงที่ก่อนหน้านี้กระทรวงมหาดไทยผลักดันให้ต่างชาติซื้อบ้านได้ไม่เกิน 1 ไร่ แต่ไม่ผ่านการพิจารณา เพราะคนไม่เชื่อว่าจะไม่เป็นการขายประเทศ ซึ่งผมอยากให้ประเทศเราเป็นประเทศที่เปิดกว้าง และยอมรับว่าเราไม่ได้ขายชาติ อยากให้รัฐบาลเปิดใจ ผ่านกฎหมายให้ได้ เพื่อดึงตต่างชาติมีศักยภาพเข้ามา เชื่อว่าเงินทุนที่ไหลเข้ามา จะเกิดอัตราการจ้างงาน ทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้อย่างแท้จริง แต่ถ้ายังคงคิดถึงแต่ว่าไม่ได้หรอก ไม่มั่นคง คนไทยจะแย่กันหมด ผมว่าโลกเรามันไร้พรมแดนไปแล้วและทุกชาติก็มีความเท่าเทียมกัน”นายคริสกล่าว

นายคุณวุฒิ ธรรมพรหมกุล ประธานคณะกรรมการบริหารบริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ประเมินว่าเศรษฐกิจโดยรวมหลังเลือกตั้งน่าจะยังไม่คึกคัก เพราะกว่าจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้เข้าสู่เดือนสิงหาคมแล้ว ขณะที่ช่วง 3 เดือนที่รอรัฐบาลใหม่เข้ามานั้น อาจจะทำให้ไม่มีการผลักดันนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจออกมา รวมถึงการเบิกจ่ายงบประมาณที่อาจจะล่าช้าและงบประมาณใหม่ยังไม่เกิด ดังนั้นจึงมีแค่การท่องเที่ยวเท่านั้นที่จะมาเป็นตัวขับคลื่อนเศรษฐกิจ จึงคาดว่าจะทำให้กำลังซื้อและเศรษฐกิจทรงตัว โดยปัจจุบันกำลังซื้อในเมืองท่องเที่ยวยังถือว่าไปได้ แต่ภาคอีสานลดลง หลังหมดมาตรการของภาครัฐ เช่น โครงการคนละครึ่ง ขณะที่ราคาสินค้าคงไม่มีการปรับขึ้นอีก เพราะได้ขึ้นไปแล้วตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว หากจะขึ้นอีก ทำให้ขายไม่ได้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image