บี.กริม เพาเวอร์ โชว์รายได้ฟื้นตัว ปีนี้เร่งผลิต 528 เมกะวัตต์เข้าพอร์ต

บี.กริม เพาเวอร์ โชว์รายได้ฟื้นตัว ปีนี้เร่งผลิต 528 เมกะวัตต์เข้าพอร์ต

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2566 มีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง โดยมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน-ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่อยู่ที่ 379 ล้านบาท จาก 34 ล้านบาท ในช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งเป็นช่วงที่ได้รับผลกระทบรุนแรงจากวิกฤตราคาก๊าซ ขณะที่กำไรสุทธิ-ส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ อยู่ที่ 399 ล้านบาท

สาเหตุหลักมาจากการฟื้นตัวของกลุ่มโรงไฟฟ้าเพื่ออุตสาหกรรม (SPP) และผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม ลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า (heat rate) เฉลี่ยถึง 4.6% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการโรงไฟฟ้า SPP เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิมทั้ง 5 โครงการ และการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

สำหรับทิศทางในปี 2566 บี.กริม เพาเวอร์ จะมุ่งขยายการลงทุนทั้งโครงการใหม่และการเข้าซื้อกิจการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิ ประเทศเกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ทวีปยุโรป และภูมิภาคตะวันออกกลางโดยในส่วนของกำลังการผลิตจากโครงการที่เปิดดำเนินการแล้วคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 528 เมกะวัตต์ จาก 3,338 ณ สิ้นปี 2565 เป็น 3,866 ณ สิ้นปี 2566

ADVERTISMENT

จากโครงการโรงไฟฟ้า SPP เพื่อทดแทนโรงไฟฟ้าเดิม (BGPM2) โครงการโรงไฟฟ้าแบบผสมผสานอู่ตะเภาเฟสแรก และโรงไฟฟ้า SPP ใหม่ 2 โครงการ (BGPAT2&3) รวมถึงการเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศมาเลเซีย 2 โครงการ (BGMCSB และ ISSB) พร้อมตั้งเป้าเพิ่มลูกค้าอุตสาหกรรม (IU) รายใหม่ เข้าเชื่อมระบบรวม 50-60 เมกะวัตต์ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า

นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญในการควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆ โดยดำเนินการตามแผนควบคุมค่าใช้จ่ายของบริษัท เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 50-70 ล้านบาท ในระยะยาว บี.กริม เพาเวอร์ ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลกและบรรลุเป้าหมายการก้าวสู่องค์กรที่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero Carbon Emissions) ภายในปี 2593 การขยายพอร์ตสู่กำลังการผลิต 10,000 เมกะวัตต์ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ในปี 2573

ADVERTISMENT
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image