ส.อ.ท.หนุนรัฐบาลใหม่ ลดค่าไฟ 70สตางค์ 100 วันแรก รอยื่นสมุดปกขาว

ส.อ.ท.หนุนรัฐบาลใหม่ ลดค่าไฟ 70สตางค์ 100 วันแรก รอยื่นสมุดปกขาว แก้ซ้ำซ้อนกฎระเบียบภาครัฐ-ค่าแรง-ต้นทุนพลังงาน

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงนโยบายของ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ที่ประกาศเป็นรัฐบาลจะเดินหน้านโยบายช่วง 100 วันแรก อาทิ นโยบายค่าไฟแฟร์ ว่าส่วนตัวเห็นด้วยทุกข้อ ทั้งการลดค่าไฟให้กับประชาชนได้อย่างน้อย 70 สตางค์ต่อหน่วย รวมทั้งนโยบายให้ความสำคัญกับประชาชนก่อนกลุ่มทุน อาทิ การเปลี่ยนนโยบายก๊าซธรรมชาติให้โรงแยกก๊าซร่วมหารต้นทุนก๊าซใน Energy Pool Price (ราคาเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของต้นทุนเชื้อเพลิง) และเจรจาสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับบริษัทสัมปทานพลังงานใหม่

ทั้งนี้ มีสิ่งที่อยากให้เพิ่มเติมในนโยบาย คือ เรื่องการแก้ปัญหาหนี้ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ควรใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นรวมด้วย นอกจากเงินกู้ อาทิ การออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) โซลาร์บ้านทำได้แต่ต้องรอบด้านส่วนนโยบายเรื่องหลังคาสร้างรายได้ เปิดเสรีโซลาร์เซลล์ในครัวเรือนนั้น เป็นเรื่องที่น่าสนใจ และเห็นด้วยที่จะสนับสนุนการติดโซลาร์เซลล์สำหรับครัวเรือน อย่างไรก็ดี การดำเนินนโยบายนี้ควรมีการหารืออย่างรอบคอบกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ทั้ง 2 นโยบายไฟฟ้าถือว่าดี สามารถทำได้ในแผน 100 วันแรกของพรรค ก.ก. หากได้เป็นรัฐบาล เพียงแต่อยากให้หารือผู้เกี่ยวข้องให้รอบคอบอีกครั้งเพื่อให้เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

Advertisement

ด้าน นายมนตรี มหาพฤกษ์พงศ์ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดทำสมุดปกขาวเสนอรัฐบาลใหม่ ว่า ขณะนี้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำเรื่องตรวจรับเอกสาร มีกำหนดส่งช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เพราะฉะนั้นยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ และหลังจากตรวจรับจะมีการเสนอเข้าที่ประชุมกรรมการบริหาร ส.อ.ท. แล้วจึงจะนำส่งให้รัฐบาลชุดใหม่ ส่วนข้อเสนอเบื้องต้นนั้น คือ การปรับโครงสร้างและลดความซ้ำซ้อนของกฎระเบียบภาครัฐ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย อีกข้อเสนอ คือ เรื่องค่าแรง ส.อ.ท.พูดมาตลอดว่าอยากให้มีการจ่ายค่าแรงตามความสามารถและทักษะของแรงงานมากกว่า และดูแลเรื่องค่าครองชีพด้วย

นายมนตรีกล่าวว่า นอกจากนี้ข้อเสนอ เรื่องต้นทุนพลังงาน การเปิดตลาดการซื้อขายไฟฟ้าเสรี เป็นสิ่งที่ ส.อ.ท.และนโยบายของพรรค ก.ก. และพรรคเพื่อไทย (พท.) เห็นตรงกัน เพราะฉะนั้น ถ้าพรรคใดเข้ามาเป็นรัฐบาลก็อยากให้รีบทำ ส่วนนโยบายของรัฐบาลชุดเดิมที่ทำดีอยู่แล้ว และอยากให้รัฐบาลใหม่นำไปต่อยอดคือ เรื่อง เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว หรือบีซีจี เพราะว่าการค้าโลกในอนาคตนั้น หนีไม่พ้นเรื่องนี้แน่นอน และรีบจัดทำโครงการเขตพัฒนาพิเศษให้พื้นที่อื่นๆ นอกจากเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ให้เป็นมรรคเป็นผลด้วย

Advertisement

 

 

อ่านข่าวน่าสนใจ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image