“ช.การช่าง”ชี้ 2560 ปีทองอุตฯก่อสร้าง เผยปี 59 รายได้สูงเกินเป้า

นายปลิว ตรีวิศวเวทย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คาดว่าในปี 2560 บริษัทจะได้ส่วนแบ่งจากโครงการภาครัฐ 20% จากงานภาครัฐที่คาดว่าจะทยอยเปิดประมูลทั้งสิ้นกว่า 50 โครงการมูลค่ารวม 4-5 แสนล้านบาท โดยแต่ละโครงการคาดว่าจะมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 8-10% ทั้งนี้ จากงานที่รอรับรู้รายได้ที่ปัจจุบันมีอยู่ 71,287 ล้านบาท จะส่งผลให้ในปี 2560 บริษัทจะมีรายได้จากการก่อสร้างขั้นต่ำประมาณ 35,000 ล้านบาท

ส่วนจะมากกว่านี้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการเจรจากับภาครัฐและขั้นตอนเปิดประมูลของภาครัฐว่าจะรวดเร็วเพียงใด ซึ่งมีโอกาสสูงที่บริษัทจะมีรายได้มากกว่าที่คาดไว้ เนื่องจากปัจจุบันบริษัทมีงานรอลงนามอีก 2 สัญญามูลค่ารวม 26,982 ล้านบาท และยังเป็นผู้เสนอราคาต่ำสุดในการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มจำนวน 3 สัญญา คือสัญญาที่ 1,2,5 มูลค่ารวม 47,171 ล้านบาท หากการลงนามในสัญญาทั้งหมดเป็นไปตามแผนและไม่มีปัญหาจะทำให้บริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้แตะระดับ 1 แสนล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทเชื่อว่าในปี 2560 จะเป็นปีทองของอุตสาหกรรมก่อสร้างโดยภาพรวมตลาดจะเติบโตถึง 30-40% ปัจจัยหลักมาจากภาครัฐเร่งลงทุนโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก ซึ่งส่วนตัวมองว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่รัฐบาลเร่งลงทุนและออกโครงการมาจำนวนมากขนาดนี้ และเชื่อว่าทุกโครงการจะเดินหน้าได้ตามแผนงานเห็นได้จากโครงการต่างๆ เริ่มเดินหน้าตั้งแต่เดือนธันวาคมปี 2559 ทำให้ความมั่นใจของภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศฟื้นตัวขึ้น

นายปลิวกล่าวอีกว่า ขณะนี้รัฐบาลประเทศลาวอยู่ในระหว่างศึกษาโครงการไฟฟ้าพลังงานน้ำแห่งใหม่มูลค่าโครงการใกล้เคียงกับโครงการไซยะบุรีที่มีมูลค่าโครงการ 1.4 แสนล้านบาท บริษัทเชื่อว่าทางรัฐบาลลาวจะเลือกให้บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทลูก เป็นผู้ก่อสร้าง หรือร่วมลงทุนเนื่องจากบริษัทมีประสบการณ์ในการทำงานร่วมกับทางรัฐบาลลาวมาถึง 2 ครั้งคือเขื่อนน้ำงึม 2 และไซยะบุรี หากได้งานจริงต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของบริษัท ซีเค พาวเวอร์ว่าจะให้บริษัท ช.การช่าง หรือจะร่วมมือกับบริษัทพันธมิตรเข้าไปร่วมทำงานด้วยหรือไม่

สำหรับรายได้ในปี 2559 นั้นคาดว่าจะมีรายได้จากการก่อสร้างทั้งปีประมาณ 46,000-47,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ในระดับ 35,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาจากการรับรู้รายได้จากงานเพิ่มของโครงการไซยะบุรีในไตรมาส 2 ซึ่งเพิ่มจากปี 2558 รวม 12,450 ล้านบาท คิดเป็น 48.33% ส่วนเงินลงทุนนั้นยังเหลือกรอบการออกหุ้นกู้ได้อีก 5,000 ล้านบาท มีแนวโน้มจะออกได้ในช่วงปี 2560 และสามารถกู้เงินเพิ่มได้อีก 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีต้นทุนทางการเงินอยู่ที่ 3.8%

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image