‘เอกชน’ มั่นใจส.ว.ไม่กล้าขัดมติประชาชน โหวต ‘พิธา’ นั่งนายกฯ แนะขึ้นค่าแรงปีละ10% 

‘เอกชน’ มั่นใจ ส.ว.ไม่กล้าขัดมติประชาชน โหวต ‘พิธา’ นั่งนายกฯ แนะขึ้นค่าแรงปีละ 10%

วันที่ 21 พฤษภาคม นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และนายกสมาคมอาคารชุดไทย เปิดเผยว่า ผลการเลือกตั้งออกมาชัดเจนแล้วว่าพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยได้คะแนนเสียงข้างมากเป็นอันดับ 1 และอันดับ 2 อยากให้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ให้ได้ โดยที่ไม่ต้องไปกังวลเสียงจาก ส.ว. ขอให้ทั้ง 2 พรรคมีความแน่วแน่ในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ว่าอย่างไร ส.ว.จะต้องโหวตให้อย่างแน่นอน เพราะคงไม่มีใครกล้าค้านมติของประชาชน และเชื่อว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นทั้งเศรษฐกิจและสังคมหลังมีรัฐบาลใหม่ที่ชนะการเลือกตั้งมาอย่างสง่างาม สร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนไทยและต่างชาติ

“ขอให้ตั้งรัฐบาลโดยเร็ว เพราะจะคาบเกี่ยวกับการใช้งบประมาณใหม่ในปี 2567 หากล่าช้าจะทำให้การลงทุนใหม่ๆ หรือการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้าตามไปด้วย เชื่อว่าทุกคนคงไม่อยากจะเห็นความขัดแย้งหรือมีการทะเลาะกันเกิดขึ้น เพราะบอบช้ำกันมาเยอะแล้ว” นายพีระพงศ์กล่าว

นายพีระพงศ์กล่าวว่า ดูจากนโยบายของพรรคก้าวไกลจะมุ่งในเรื่องการยกระดับความเป็นอยู่ของชาวบ้านและสังคม ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่มองการแก้ปัญหาในระยะยาว ซึ่งรัฐบาลที่ผ่านมาจะมองข้าม ขณะที่นโยบายพรรคเพื่อไทยจะโดดเด่นการกระตุ้นเศรษฐกิจและเคยผ่านการคุมกระทรวงเศรษฐกิจมาก่อน ถือว่าทั้ง 2 พรรคมีนโยบายที่บาลานซ์กัน

Advertisement

“สิ่งที่ยังกังวล คือ การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ก้าวกระโดด จากเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 337 บาท เป็น 450 บาท เพิ่มขึ้นประมาณ 30% ขอให้รัฐบาลใหม่ทยอยขึ้นปีละ 10% เพราะหากขึ้นทีเดียวกระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างและราคาบ้านและคอนโดมิเนียมประมาณ 1.5% ส่วนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ในเขตพัฒนาภาคตะวันออกหรืออีอีซี หากเพื่อไทยมาดูจะกระตุ้นโครงการต่างๆ ให้เร็วขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงฝากรัฐบาลใหม่เร่งแก้ปัญหาการส่งออกที่เริ่มแผ่วลง ตามภาวะการบริโภคและเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว” นายพีระพงศ์กล่าว

นายพีระพงศ์กล่าวว่า อย่างไรก็ตามสมาคมอาคารชุดไทย ได้เตรียมข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่ ได้แก่ ให้พิจารณาการให้วีซ่าระยะยาวต่างชาติ 3-5 ปี เท่ากับราคาคอนโดมิเนียม เช่น ซื้อคอนโด 3 ล้านบาท ได้วีซ่า 3 ปี ซื้อ 5 ล้านบาท ได้วีซ่า 5 ปี, ผ่อนปรนมาตรการ LTV อีก 2 ปี, ทบทวนอัตราภาษีที่ดินเป็นแบบอัตราเดียวกัน 0.3% เท่ากันทุกประเภท เนื่องจากที่ดินแต่ละประเภทมีราคาประเมินของกรมธนารักษ์กำหนดไว้อยู่แล้ว และแต่ละพื้นที่มีราคาไม่เท่ากัน หากทำได้จะทำให้ไม่ต้องมีปัญหาการตีความและนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ไม่ตรงกับประเภท เพื่อลดภาระภาษี เช่น ปลูกกล้วยบนที่ดินกลางเมือง, ขยายระยะเวลาการเช่าอสังหาริมทรัพย์จาก 30 ปี เป็น 90 ปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image