ภาคส่งออกเชื่อ จัดตั้งรัฐบาลใหม่ทัน ส.ค. ขอให้ปล่อยไปตามครรลองของประชาธิปไตย
วันที่ 21 พฤษภาคม นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลที่อาจไม่เป็นไปตามไทม์ไลน์กำหนดว่าจะจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในเดือนสิงหาคม หรืออาจเลื่อนออกไปนั้นว่า มองว่าถ้าทุกฝ่ายมองเห็นในเรื่องของผลประโยชน์ประเทศชาติและความเห็นของประชาชนเป็นหลัก เชื่อว่าทุกอย่างจะดำเนินไปตามกลไกของประชาธิปไตยที่ได้กำหนดไว้ เพราะฉะนั้นยังอยากเห็นทุกฝ่ายมองภาพรวมด้วยกัน และเป้าหมายของประเทศไทยเป็นที่ตั้ง และเชื่อว่าการจัดตั้งรัฐบาลจะยังคงอยู่ในกรอบการคาดการณ์เดิม
ขณะเดียวกัน หากรัฐบาลจัดตั้งล่าช้าประเด็นที่ต้องคำนึงถึงคืองบประมาณปี 2567 ที่จะต้องผ่านสภา และจะต้องขับเคลื่อนในปี 2567 ที่การจัดสรรงบประมาณจะต้องวางให้สอดคล้องในเรื่องของแผนกลยุทธ์และนโยบายต่างๆ ที่พรรคการเมืองได้ตั้งไว้ ดังนั้น เรื่องของการจัดตั้งงบประมาณ และความเห็นชอบต่างๆ จะต้องสอดคล้องกันและต้องทำให้เหมาะสม
“อย่างไรก็ตาม การเมืองเป็นปัจจัยหนึ่งส่งผลต่อนักลงทุน ถ้าเสถียรภาพของรัฐบาลแข็งแกร่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ซึ่งปัญหาการจัดตั้งรัฐบาลขณะนี้ควรปล่อยไปตามครรลองของประชาธิปไตย เมื่อจัดตั้งรัฐบาลแล้วเสร็จจะสร้างความเชื่อมั่นเสริมให้ทุกเครื่องยนต์เศรษฐกิจ เช่น การท่องเที่ยว การส่งออก การลงทุน เป็นต้น ให้สามารถเดินหน้าต่อได้ จึงมองว่าเสถียรภาพทางการเมืองถือเป็นกลไกที่สำคัญ” นายชัยชาญกล่าว
นายชัยชาญกล่าวว่า ขณะเดียวกัน หากรัฐบาลใหม่ใช้ระยะเวลาจัดตั้งนานกว่ากรอบที่กำหนด ในส่วนของภาคเอกชนจะผลักดันเศรษฐกิจต่อเนื่อง โดยภาคการส่งออกจะมีการประชุมในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ ที่กระทรวงพาณิชย์ โดยมีภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม อาทิ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เข้าประชุมสำหรับแนวทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และขับเคลื่อนเรื่องแผนปฏิบัติการสำหรับการส่งออก หรือแผนกลยุทธ์ในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ท่ามกลางเศรษฐกิจขาลง
เช่น การชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศสหรัฐ ยุโรป และการฟื้นตัวของประเทศจีน ไตรมาส 1/2566 เติบโตช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ดังนั้น ไทยจึงต้องเร่งเครื่องการส่งออกและรักษาสถานะเดิมโดยการเร่งขยายตลาดการค้าใหม่ๆ ซึ่งรัฐและเอกชนจะต้องจูงมือไปด้วยกัน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจาก สรท.เปิดเผยว่าภาคการส่งออกไทยในเดือนมีนาคม 2566 ตัวเลขติดลบ 4.2% ขณะที่ประเมินว่าการส่งออกของไทยในไตรมาส 1/2566 มีแนวโน้มติดลบ 10% และในไตรมาส 2/2566 ติดลบ 0.5% และมีโอกาสทั้งปี 2566 ภาคการส่งออกไทยขยายตัว 1%
