แอลเอ็นจีถูก – ก๊าซอ่าวไทยเพิ่ม ก.พลังงานลุ้นกดค่าไฟปลายปี เหลือหน่วยละ 4 บาท

แอลเอ็นจีถูก – ก๊าซอ่าวไทยเพิ่ม ก.พลังงานลุ้นกดค่าไฟปลายปี เหลือหน่วยละ 4 บาท พร้อมรื้อโครงสร้างผลิตตามนโยบายรัฐบาลใหม่

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า แนวโน้มค่าไฟงวดสุดท้ายของปี(กันยายน-ธันวาคม2566) น่าจะปรับตัวลดลงจากสัญญาณราคาเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติเหลว(แอลเอ็นจี)ที่ลดลง เหลือระดับ 10 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ทำให้ค่าไฟลดลง 40-50 สตาค์ต่อหน่วย และหากแอลเอ็นจีลดลงไปถึงระดับ 9 เหรียญฯต่อล้านบีทียู ค่าไฟจะลดลงได้ถึง 70 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งค่าไฟปัจจุบันอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย จะมีโอกาสลดเหลือระดับ 4.00-4.30 บาทต่อหน่วย นอกจากนี้การผลิตก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยต้องได้ตามที่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(ปตท.สผ.) ระบุจะถึง 500 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน กลางปี เพิ่มเป็น 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันภายใน และปี 2567 เป็น 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพราะก๊าซฯอ่าวไทยราคาถูกประมาณ 5-6 เหรียญต่อล้านบีทียูเท่านั้น

“ช่วงนี้ราคาเชื้อเพลิงถูกลง และปริมาณก๊าซฯในอ่าวไทยจะเพิ่มขึ้น จะช่วยให้ค่าไฟฟ้าลดลง ดังนั้นการที่พรรคการเมืองหาเสียงลดค่าไฟ สามารถทำได้แน่นอนอย่างน้อย 50 สตางค์ต่อหน่วย”แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวกล่าวว่า สำหรับเอ็มโอยู 8 พรรคร่วมรัฐบาล มีแนวทางของการปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้า การคำนวณราคา และกำลังผลิตที่เหมาะสม เพื่อลดค่าครองชีพประชาชน รวมอยู่ด้วยนั้น กระทรวงฯจะติดตามและเตรียมทำข้อมูลว่าจะมีการปรับเปลี่ยน แก้ไขได้อย่างไรบ้าง รวมถึงการปรับแผนพัฒนาไฟฟ้าของประเทศไทยหรือ พีดีพี ทำได้ขนาดไหน ปัจจุบันทิศทางพลังงานโลกเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด ต้องสร้างตลาดพลังงานให้สมดุล พลังงานหมุนเวียนอย่างโซลาร์รูฟท็อปแบบมิเตอร์หักลบกลบหน่วย( Net metering) จะเป็นอย่างไร โรงไฟฟ้าชุมชนจะส่งเสริมต่อหรือไม่ ต้องรอนโยบายจากรัฐบาลใหม่

Advertisement

นอกจากนี้กรณีพรรคการเมืองเสนอให้เจรจากับภาคเอกชนเรื่องการปรับลดค่าความพร้อมจ่าย (เอพี) เป็นสิ่งที่เจรจาได้ แต่ต้องใช้เวลาและความพยายามพอสมควร ซึ่งต้นทุนค่าเอพีอยู่ในส่วนของต้นทุนค่าไฟฐาน ใช้มาตั้งแต่ปี 2537 คิดเป็นสัดส่วนเพียง 10 สตางค์ต่อหน่วยเท่านั้น ไม่มากเท่ากับต้นทุนแอลเอ็นจี

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า สำหรับการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมัน 5 บาทต่อลิตรที่จะสิ้นสุดวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ หากไม่ต่ออายุราคาน้ำมันดีเซลจะปรับขึ้นเป็น 37 บาทต่อลิตรทันที ดังนั้นต้องมาพิจารณาว่ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจะช่วยเหลืออย่างไร จากปัจจุบันฐานะยังติดลบกว่า 72,000 ล้านบาท

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image