คลัง-อัยการ-กฤษฎีกายังเห็นต่างช่วยทีวีดิจิตอล-เอกชนต้องลุ้นต่อ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด กสทช. เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ สำนักงาน กสทช. ได้รายงานปัญหาและแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลแล้ว โดยสามารถแบ่งเป็นประเด็นที่ สำนักงาน กสทช. สามารถช่วยเหลือได้คือ การแจกคูปองสนับสนุนค่าอุปกรณ์รับชมทีวีดิจิตอลมูลค่า 690 บาท เพิ่มอีก 11.6 ล้านใบ ให้แก่ครัวเรือนที่ได้รับสิทธิ์แต่ไม่ได้คูปองครั้งก่อน, ครัวเรือนที่มีเจ้าบ้านและทะเบียนบ้าน หลังวันที่ 16 กันยายน2558, ครัวเรือนที่มีทะเบียนบ้านมีผู้อาศัยแต่ไม่มีเจ้าบ้าน , บ้านพักราชการรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐ และ ครัวเรือนที่ใช้ทะเบียนบ้านร่วมกัน ซึ่งในวันเดียวกันนี้ ทาง กสทช. ก็จะไปชี้แจงเรื่องดังกล่าวแก่ คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ซึ่งหาก คตร. อนุญาต ก็จะส่งเรื่องต่อไปยังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เพื่ออนุมัติให้เริ่มดำเนินการแจกจ่าย

นายฐากรกล่าวว่า ส่วนประเด็น อื่นๆ ที่ กสทช. สามารถดำเนินการได้แล้วคือการเรียงช่องให้เหมือนกันทุกรูปช่องทางออกอากาศ ซึ่งสำนักงาน กสทช.มีอำนาจในการบังคับให้ดำเนินการเป็นไปตามข้อกำหนดของกสทช. ซึ่งปัจจุบันมีเพียง โครงข่าย ทรูวิชั่นส์ เพียงรายเดียวที่ไม่ดำเนินการดังกล่าว, เรื่องการทำประชาสัมพันธ์ ทีวีดิจิตอล มูลค่าโครงการ 60 ล้านบาท ทาง กสทช. ได้ออกประกาศประกวดราคาแล้ว, เรื่อง ลดค่าเช่าโครงข่ายสำนักงาน กสทช. ได้ส่งเรื่องต่อไปให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์(กสท.) เป็นผู้พิจารณาเรียบร้อยแล้ว ส่วนประเด็นเรื่องลดการจ่ายเงินค่าธรรมเนียมเข้ากองทุนกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ(กองทุน กทปส.) กสทช. อยู่ระหว่างการปรับปรุงร่างประกาศเก็บเงินใหม่ โดยจะปรับเป็นเก็บเงินเพียง 0.1-1% จากรายได้รวมต่อปี

นายฐากร กล่าวว่า ในส่วนประเด็นที่เกินขอบข่ายอำนาจสำนักงาน กสทช. และต้องให้บอร์ด กสทช. เป็นผู้ตัดสินใจได้แก่ การเลื่อนจ่ายเงินค่าประมูลทีวีดิจิตอล งวดที่3, ขยายระยะเวลาใบอนุญาตอีก 1 ปี, การคืนใบอนุญาตได้โดยไม่ต้องชำระเงินงวดที่เหลือ, การใช้เงิน กสทช. ในการจัดจ้างหน่วยงานกลางชี้วัดเรตติ้ง และ การใช้งาน กสทช. ช่วยเหลือผู้ประกอบการในการอัพโหลดสัญญาณช่องรายการทีวีดิจิตอลขึ้นดาวเทียม ซึ่งบอร์ด กสทช. ได้มีมติให้เลื่อนการพิจารณาประเด็นเหล่านี้ไปพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไปภายหลังจากที่ คณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาทีวีดิจิตอล ที่มีตัวแทนจาก กระทรวงการคลัง สำนักงานอัยการสูงสุด และสำนักงานกฤษฎีกา สรุปผลการพิจารณา หลังจากที่เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาคณะทำงานชุดนี้ยังมีความเห็นกันไปคนละทิศทาง และทาง กสทช. จึงขอให้ตัวแทนจากหน่วยงานนำประเด็นดังกล่าวไปปรึกษาหัวหน้างานในสังกัดก่อน คาดว่าจะหาข้อสรุปได้ในต้นเดือนมีนาคมนี้

นายฐากร กล่าวว่า นอกจากนี้ บอร์ด กสทช. ได้มีมติอนุมัติงบรายจ่ายประจำปี 2559 จำนวน 5,395.4 ล้านบาท สูงจากปี 2558 ประมาณ 1% ขณะที่มีการคาดการณ์ว่า กสทช.จะมีรายได้เข้ามาทั้งสิ้นราว 8,500 ล้านบาท โดยรายได้ที่เกินรายจ่ายนั้น ทางกสทช. ก็จะนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และ กองทุน กสทช. จำนวน 278.4 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image