นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความร่วมมือภายใต้บริษัทร่วมทุนระหว่างบีทีเอสและแสนสิริ พัฒนาโครงการคนโดมิเนียมตามแนวรถไฟฟ้าบีทีเอสจำนวน 25 โครงการ มูลค่ารวม 100,000 ล้านบาท ว่าปัจจุบันทั้งสองบริษัทพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมรวมกันไปแล้ว 8 โครงการ 2,963 ยูนิต มูลค่ารวม 30,000 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขาย 70% มูลค่าทรัพย์สินรวม 21,000 ล้านบาท ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก และการที่บีทีเอสชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลือง ทำให้โครงการพัฒนาสังหาริมทรัพย์ร่วมระหว่างบีทีเอสและแสนสิริ จะเพิ่มเป็นมากกว่า 25 โครงการอย่างแน่นอน โดยระหว่างนี้จะทยอยเก็บที่ดินเพิ่มเรื่อยๆ เพื่อเป็นแลนด์แบงก์ จากปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท เพิ่มอีกสองถึงสามเท่า
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีหน้าจะมีการเปิดตัวโครงการร่วมกับบีทีเอส 5 โครงการ โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดชัดเจนในช่วงมกราคมปีหน้า และจากการที่บีทีเอสชนะการประมูลรถไฟฟ้าสายสีชมพูและสีเหลืองซึ่งมีเส้นทางแถบชานเมือง ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะมีการพัฒนาโครงการแนวราบร่วมกัน จากที่ก่อนหน้านี้มีแต่โครงการแนวดิ่งเท่านั้น
สำหรับในปีนี้แสนสิริตั้งเป้าหมายรายได้คอนโดมิเนียมในปี 2559 ไว้ที่ 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายรวมกับการที่บริษัทเริ่มมีรายได้จากการบริหารโครงการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับบีทีเอส ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทมีรายได้จากคอนโดมิเนียมแล้วประมาณ 15,000 ล้านบาท เติบโตจากการทยอยรับรู้รายได้จากโครงการคอนโดมิเนียมที่ทยอยโอนทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด และยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ในอีก 4 ปีข้างหน้า ประมาณ 38,300 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายรอรับรู้รายได้ของแสนสิริ 17,600 ล้านบาท และยอดขายรอรับรู้รายได้ของบริษัทร่วมทุนกับบีทีเอสอีก 20,700 ล้านบาท
