‘ททท.’ ปิ้งไอเดียเที่ยวตามรอย ‘ยูเอฟโอ’ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ดันรายได้-จำนวนเข้าเป้า

‘ททท.’ ปิ้งไอเดียเที่ยวตามรอย ‘ยูเอฟโอ’ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ดันรายได้-จำนวนเข้าเป้า

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท. มียุทธศาสตร์ในการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวเมืองรอง โดยมีเป้าหมายในการปรับสัดส่วนนักท่องเที่ยวเมืองรองและเมืองหลัก จากเดิมเมืองรองอยู่ที่ 10% เมืองหลัก 90% เปลี่ยนเป็นเมืองรองเพิ่มขึ้นที่ 20% เมืองหลักเหลือ 80% ภายในปี 2566 ซึ่งเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ หากสามารถกระจายนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไปในเมืองรองได้มากขึ้น เพราะมีทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวจริงๆ มาแล้วกลับ รวมถึงกลุ่มต่างชาติที่ทำงานในไทย และอาศัยอยู่ในไทยด้วย จึงต้องดึงจุดแข็งให้เป็นจุดขาย โดยจากข้อมูลพบว่า ตัวเลขจำนวนผู้เยี่ยมเยือนหรือเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ สะสมตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 31 พฤษภาคม (5 เดือน) ปี 2566 อยู่ที่ 134 ล้านคน-ครั้ง แบ่งเป็นคนไทย 100 ล้านคน-ครั้ง ต่างชาติ 34 ล้านคน-ครั้ง ซึ่งเก็บข้อมูลพบว่าการเดินทางของนักท่องเที่ยว 1 คน สามารถท่องเที่ยวได้มากกว่า 1 ครั้ง สร้างรายได้แบ่งเป็นคนไทย 9.59 แสนล้านบาท ต่างชาติ 5.8 แสนล้านบาท ภายใต้อัตราการเข้าพักฟื้นขึ้นมาที่ 70% แต่อาจยังไม่ได้ฟื้นตัวเท่ากันทั่วประเทศ โดยททท.มุ่งเน้นในการผลักดันให้นักท่องเที่ยวเที่ยวนานขึ้น เพื่อเพิ่มวันพักแรมมากขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้นได้

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า ประเมินการพักค้างแรมต่อทริปของนักท่องเที่ยวพบว่าฟื้นตัวได้ดีในบางจังหวัด ส่วนบางจังหวัดก็ยังไม่ได้ฟื้นตัวได้ดีมากนัก ซึ่งททท.จะร่วมมือกับพันธมิตรในการสร้างกิจกรรมกระตุ้นการเพิ่มจำนวนวันท่องเที่ยวมากขึ้น อาทิ ร่วมมือกับวัดวาอารามในการติดประดับไฟสวยงาม เพื่อเพิ่มจุดท่องเที่ยวในช่วงกลางคืนมากขึ้น สร้างความท่องเที่ยวที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ ททท. จะให้ความสำคัญกับกลุ่มที่มีความสนใจเฉพาะด้านมากขึ้น เพราะเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ มีความเชื่อและสนใจเหมือนกัน มีอิทธิพลให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้ อาทิ เส้นทางการท่องเที่ยวตามรอย ‘ยูเอฟโอ’ ณ เขากะลา จังหวัดนครสวรรค์ และอาจเป็นครั้งแรกของโลกด้วย รวมถึงเส้นทางอื่นๆ อาทิ เส้นทางกลุ่มทาสรักน้องหมาน้องแมว หลังจากก่อนหน้านี้ได้ทำตลาดขายเส้นทางท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์ (ดูดาว) รองรับพฤติกรรมและความสนใจที่หลากหลายของนักท่องเที่ยวมากขึ้นแล้ว

“ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ เชื่อว่าปี 2566 ได้เห็นที่ 25 ล้านคนแน่นอน แต่ยังคาดหวังว่าจะได้เห็นถึง 28-30 ล้านคน เพื่อให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งภาคเอกชนสามารถอยู่ได้และขยายตัวได้อย่างแท้จริง หลังจากเห็นอัตราการเข้ามาของต่างชาติดีขึ้น เทียบกับปี 2565 ที่มีประมาณ 11 ล้านคน แต่ปีนี้เพิ่งผ่านไป 5 เดือน แต่มีต่างชาติเข้ามาแล้ว 10 ล้านคน ความท้าทายอยู่ที่ 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ว่าจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาได้ในอัตราที่ประเมินไว้หรือไม่ อาทิ จีน ที่ฟื้นตัวกลับมาได้มากเท่าใด เพราะขณะนี้เห็นประเทศที่เข้ามาเที่ยวไทยหลักๆ เป็น มาเลเซีย จีน อินเดีย และซีแอลเอ็มวี” นางสาวฐาปนีย์ กล่าว

นางสาวฐาปนีย์ กล่าวว่า การชะลอตัวลงของการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเป็นผลจากกำลังซื้อที่ลดลง หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้น รวมถึงการจับตาความเคลื่อนไหวทางการเมืองด้วยหรือไม่ และส่วนใดมีความน่ากังวลมากสุดนั้น มองว่าขณะนี้ทุกคนมีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและตีความเฉพาะปัจเจกบุคคล ซึ่งอาจมีความเบื่อหน่ายเรื่องการเมืองและหันไปเที่ยวแทนได้ เหมือนเวลาเกิดความเครียดคนก็ไปเที่ยว หรือทำงานเยอะก็ไปเที่ยว ทำให้ในช่วงสุญญากาศทางการเมืองนี้ ยังไม่มีความชัดเจนและทำอะไรไม่ได้ก็หันไปเที่ยวก่อน ทำให้แม้ไม่สามารถพูดได้ว่าปัจจัยใดมีความน่ากังวลมากกว่ากัน แต่ก็อยากใช้ภาคการท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งในการลดความขัดแย้งและสร้างความสุขให้ได้มากที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image