“พรอสเพคฯ” ลุยเปิดคลังสินค้าใหม่ รองรับโลจิสติกส์ย่านอีอีซี พร้อมออกหุ้นกู้อีก 700 ล.ขยายธุรกิจ

“พรอสเพคฯ” ลุยเปิดตัวคลังสินค้าใหม่ รองรับโลจิสติกส์ย่านอีอีซี พร้อมออกหุ้นกู้อีก 700 ล.ขยายธุรกิจ

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน นางสาวรัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ผู้พัฒนาและบริหาร ‘โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน’ กล่าวว่า นับตั้งแต่ช่วงโควิด-19 เป็นต้นมา ความต้องการใช้งานคลังสินค้าและโรงงานให้เช่าพุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะทำเลยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ สะท้อนได้จากพื้นที่ของโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน ซึ่งมีอัตราการเช่าเฉลี่ยรวมทุกโครงการสูงถึง 85.88% ดังนั้นจึงได้เปิดตัวโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 7 (Bangkok Free Trade Zone: BFTZ 7) ถนนบางนา-ตราด กม.10 พื้นที่เช่าประมาณ 36,000 ตร.ม. โดยโครงการดังกล่าวจะมาเติมเต็มความแข็งแกร่งของโครงการเดิมในโซนบางนา-ตราด นอกเหนือจากโครงการ BFTZ 1 ถนนบางนา-ตราด กม.23 รวมถึง โครงการ BFTZ 2 ถนนเทพารักษ์ และ BFTZ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งเราพัฒนาพื้นที่และเติมผู้เช่าได้อย่างรวดเร็ว จากโมเดลการพัฒนาอาคารแบบเดิมซึ่งเริ่มต้นจากที่ดินเปล่า โครงการ BFTZ 7 นั้นมาพร้อมโมเดลใหม่ คือการเข้าแปลงโฉมอาคารคลังสินค้าที่มีอยู่แล้วให้ตอบโจทย์ภายในระยะเวลาอันสั้น ทำให้เราสามารถรองรับธุรกิจที่หลากหลายในทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มใช้งานอาคารในระยะยาว

“แม้ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ โครงการ BFTZ 7 ก็ได้รับความสนใจจาก บริษัท นิ่มเอ็กซ์เพรส จำกัด บริษัทโลจิกสติกส์ชั้นนำของไทย ที่ต้องการขยายธุรกิจและยกระดับมาตรฐานอาคารสำหรับกระจายสินค้า ซึ่งจองใช้พื้นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ ข้อมูลอุตสาหกรรมผู้เช่าใน 6 โครงการเดิม ยังสะท้อนโอกาสใหม่ทางธุรกิจหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว เช่น สินค้าอุปโภคบริโภค, ธุรกิจรีไซเคิล, ธุรกิจผลิต Solar Cell, ธุรกิจการผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนรถยนต์ที่เติบโตไปกับเทรนด์พลังงานสะอาดอย่างยานยนต์ไฟฟ้า”น.ส.รัชนีกล่าว

Advertisement

น.ส.รัชนีกล่าวว่า จากศักยภาพในครึ่งปีแรก PD มั่นใจว่าจะปิดปีด้วยลูกค้าใหม่รวมกว่า 150,000 ตร.ม. นำมาสู่การปรับเปลี่ยนภาพรวมโรดแมพในปี 2566 ให้รองรับการเติบโตในทำเลศักยภาพแห่งอนาคต โดยพุ่งเป้าไปที่โครงการ BFTZ 4 บางปะกง, BFTZ 6 ถนนบางนา-ตราด กม.19, โครงการ BFTZ 7 ถนนบางนา-ตราด กม.10 ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบภายในสิ้นปี 2566

“การดำเนินธุรกิจในยุคปกติใหม่ ต้องไม่รอให้ถูก Disrupt แล้วแก้ไขสถานการณ์ แต่ต้อง Proactive พร้อมปรับตัวและเตรียมรับมือกับความผันผวนที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา PD มองว่า 3 ตัวแปรหลัก ได้แก่ ทำเลศักยภาพ คุณภาพอาคารและการบริการ รวมถึงความเชื่อมั่นในประสบการณ์ของผู้พัฒนาโครงการ คือ สิ่งที่นักลงทุนตัดสินใจเลือกโครงการของเราตั้งฐานการผลิตและประกอบธุรกิจ การยึดมั่นในกลยุทธ์และทำงานใกล้ชิดลูกค้า ส่งผลให้เป้าหมายการพัฒนาพื้นที่เช่าในไปป์ไลน์ประสบความสำเร็จเกินคาด จากเดิม 1,000,000 ตร.ม. ภายในปี 2567 มุ่งสู่ 2,000,000 ตร.ม. ภายในปี 2571 ขณะที่ New Goal ของบริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสพัฒนาโครงการใหม่ เพราะเรามีที่ดินในพอร์ต รอการพัฒนาตรงบริเวณพื้นที่วังน้อย จุดยุทธศาสตร์กระจายสินค้าสู่ภูมิภาค และ แหลมฉบัง ซึ่งอยู่ในเขต EEC หมุดหมายใหม่ของการเติบโตหลังจากนี้” น.ส.รัชนีกล่าว

น.ส.รัชนีกล่าวว่า เพื่อเพิ่มเม็ดเงินการลงทุนสำหรับขยายธุรกิจ เตรียมออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2566 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ (คาดว่า) 6.70% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ ระยะเวลาเสนอขายวันที่ 26-28 มิ.ย. 2566 ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จำนวนของหุ้นกู้ที่เสนอขายรวมทั้งสิ้นไม่เกิน 700,000 หน่วย คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นไม่เกิน 700 ล้านบาท เสนอขายต่อผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ผ่านผู้จัดการการจำหน่ายหลักทรัพย์ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์, บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image