‘ไรมอนแลนด์’ ปลื้มบริษัทระดับโลกแห่เช่าออฟฟิศหรูเพลินจิต ปักหมุดภูเก็ตผุด ‘วิลล่า’ หลังละ 600 ล้าน
เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน นายกรณ์ ณรงค์เดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ไรมอนแลนด์ จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอาคารสำนักงานในปี 2566 แนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีข้อมูลจากบริษัท ซีบีอาร์อี (ประเทศไทย)จำกัดหรือCBRE ระบุไตรมาส1 ปี 2566 มีพื้นที่สำนักงานให้เช่าในกรุงเทพฯรวม 9.38 ล้านตารางเมตร(ตร.ม.) เป็นพื้นที่เกรดเอบวก 400,000 ตร.ม. เกรดเอ 900,000 ตร.ม. และพื้นที่เกรดเออยู่นอกซีบีดี 520,000 ตร.ม.
โดยซัพพลายพื้นที่เช่าเกรดเอบวกยังมีน้อย ขณะที่ความต้องการยังคงมีต่อเนื่อง ทำให้บริษัทมองเห็นโอกาสพัฒนาโครงการวันซิตี้เซ็นเตอร์(OCC) อาคารสำนักงานระดับลักชัวรี่ที่สูงที่สุด 61 ชั้น มูลค่า 8,800 ล้านบาท โดยร่วมทุนกับบริษัท มิตซูบิชิ เอสเตท เอเชีย ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘REIMAGINE YOUR WORLD’ ปักหมุดเป็น Happy Workplace และ Lifestyle Destination ศูนย์กลางแห่งใหม่ของโลก ชูจุดเด่นติดบีทีเอสเพลินจิต มีสะพานเชื่อมตรงสู่อาคารพร้อมสวน 3 ไร่ ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองด้วยพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่กว่า 5,000 ตร.ม.
นายกรณ์กล่าวว่า โครงการมีพื้นที่เช่า 61,000 ตร.ม. แบ่งเป็นสำนักงาน 86% ค้าปลีก 14% พื้นที่จอดรถ 837 คัน พร้อมเปิดเต็มรูปแบบในวันที่ 1 กรกฎาคม 2566 จากนั้นในไตรมาส4 จะเปิดสกายบาร์ที่ชั้น 61 ร้านอาหาร และฟู้ดคอร์ทกินนี่ฟู้ด รวมร้านดังราคาไม่เกิน 70 บาท รองรับพนักงานออฟฟิศย่านนี้
“ปัจจุบันอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 1,500 บาท/ตร.ม. ยังต่ำกว่าในตลาดที่อยู่ที่ 1,700 บาท/ตร.ม. ขณะนี้มีผู้เช่าแล้ว 70% เป็นบริษัทต่างชาติ 80% ทำธุรกิจการเงิน ประกัน จากญี่ปุ่น อเมริกา และบริษัทในไทย 20% เช่น CBRE พราว เรียลเอสเตท และไรมอนแลนด์จะย้ายมาอยู่ที่นี่ด้วย คาดสิ้นปีนี้อัตราเช่าอยู่ที่ 90%และเต็มพื้นที่ต้นปี 2567และรับรู้รายได้ทันทีปีนี้ 20%.” นายกรณ์กล่าว
นายกรณ์ กล่าวว่า สำหรับบริษัทที่เซ็นสัญญาเช่าและสามารถเปิดเผยชื่อได้ ได้แก่ มิตซูบิชิ เอสเตท , มิตซูบิชิ เฮฟวี่ , มิตซูบิชิ พาวเวอร์ , มารูเบนิ , จัสโค , ซีบีอาร์อี, อะมาดิอุส , คอร์ติน่า วอทช์ , และโคคูโย นอกจากนี้ยังมีร้านค้าที่พร้อมเปิดให้บริการในไตรมาส 2 อาทิเช่น ดีน แอนด์ เดลูก้า ร้านกาแฟดังที่ถือกำเนิดมากจากอเมริกา, โอ ปอง แปง ร้านกาแฟกึ่งเบเกอรี่ ชื่อดังจากอเมริกา, %อาราบิก้า คาเฟ่ที่โด่งดังมากในญี่ปุ่น, คาซาน่า คาเฟ่ชาเขียวมัทฉะเข้มข้นชื่อดังจากญี่ปุ่น, แบลคโบบา ร้านชาไข่มุกออร์แกนิคชื่อดัง, โฟคาฟิเซีย ร้านขนมปังพรีเมียมจากอิตาลี และลอว์สัน ร้านสะดวกซื้อชื่อดังจากอเมริกา
สำหรับโครงการใหม่ในปีนี้นายกรณ์กล่าวว่ ภายในไตรมาส4นี้ จะเปิดขาย 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 18,000 ล้านบาท ได้แก่ โรสวูด เรสซิเดนเซส กมลา จ.ภูเก็ต มูลค่า 7,000 ล้านบาท เป็นพูลวิลล่า จำนวน 14 หลัง ราคาเริ่มต้น 600 ล้านต่อหลัง อีก 2 โครงการเป็นแนวราบและแนวสูงรูปแบบอัลตร้าลักชัวรีในย่านสุขุมวิท จากปัจจุบันมีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขาย 2 โครงการ ได้แก่ ดิ เอสเทลล์ พร้อมพงษ์ มูลค่า 5,200 ล้านบาท 146 ยูนิต มียอดขายแล้ว 85% และเทตต์ สาทร ทเวลฟ์ มูลค่า 4,400 ล้านบาท 231 ยูนิต มียออดขายาแล้ว 92%
“ลูกค้าของบริษัท เป็นคนไทย 54% ต่างชาติ 46% ซื้อมากสุดมีอังกฤษ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง รัสเซีย อเมริกันและฝรั่งเศส และซื้อห้องขนาดใหญ่และเพนท์เฮ้าส์ ซึ่งในครึ่งปีหลังนี้จะเดินหน้าเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติมากขึ้น โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดขายรวมอยู่ที่ 6,700 ล้านบาท” นายกรณ์กล่าว
