ส.เอสเอ็มอี วอนอย่าผลักภาระค่าบำบัดน้ำ แนะเริ่มจากรณรงค์ก่อนดีกว่าซ้ำเติมต้นทุน
นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เปิดเผยถึงกรณี กรุงเทพมหานคร (กทม.) จะเริ่มเก็บค่าบำบัดน้ำเสียช่วงปลายปี 2566 ว่าแนวคิดการดูแลเรื่องบำบัดน้ำเสียนั้นถือเป็นเรื่องที่ดี แต่สิ่งที่จะดีไปกว่านั้นคือ ไม่ใช่การเลือกทางผลักภาระมาที่ผู้ประกอบการ ขณะนี้ กทม.มีอีกหลายเรื่องที่ต้องแก้เร่งด่วน อาทิ การดูแลต้นทุนผู้ประกอบการ การแก้ปัญหาการคอรัปชั่นค่าธรรมเนียม ภาษีป้ายให้โปร่งใส
ส่วนการแก้ไขเรื่องการบำบัดน้ำเสียต้องทำการแก้ไขที่ต้นน้ำคือการรณรงค์ให้ทุกภาคส่วนช่วยกันบำบัดน้ำเสีย และ กทม.ไปทำการตรวจวัดที่จุดปล่อยน้ำของแต่ละโรงงานดีกว่าการมาเก็บค่าธรรมเนียมการบำบัดน้ำกับผู้ประกอบการ แม้แต่ผู้ประกอบการรายย่อยเองยังไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ เพราะว่าในปัจจุบันต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็เยอะมากอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า กทม.คงมีแนวคิดในเรื่องการพัฒนากรุงเทพสีเขียว หรือการเป็นสมาร์ทซิตี้ นอกจากนี้อยากให้แก้ไขเป็น ซีโร่ คอร์รัปชั่น เชื่อว่าจะได้เม็ดเงินคืนมากกว่า ปีละหลายหมื่นล้านบาท กลับมาพัฒนาพื้นที่ กทม.ได้
“เรื่องที่จำเป็นต้องทำคือการเข้าไปดูแลธรรมาภิบาลของแต่ละหน่วยงานใน กทม.และทบทวนการใช้งบประมาณจัดซื้อจัดจ้างของ กทม.ให้เกิดการใช้ประโยชน์คุ้มค่าในทุกบาท เป็นเรื่องที่ช่วยให้เกิดความเชื่อมั่น ไม่ใช่ว่าเอะอะอะไรก็จะมาล้มทับผู้ประกอบการทั้งหมด เพราะผู้ประกอบการใน กทม.เองก็มีหลายภาคส่วน” นายแสงชัยกล่าว
