อพท. ดัน “คลองท่อม กระบี่” เมืองสุขภาพโลก โชว์ น้ำตกร้อน-น้ำพุร้อนเค็ม 1ใน2 ของโลก

อพท. ดัน “คลองท่อม กระบี่” เมืองสุขภาพโลก โชว์แหล่งท่องเที่ยวน้ำตกร้อน-น้ำพุร้อนเค็ม หนึ่งใน2 ของโลก ตอบโจทย์ตลาดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง

เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม นาวาอากาศเอกอธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. เปิดเผยว่า อพท. ได้รับมอบหมายจาก นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ดำเนินการศึกษาศักยภาพและความเหมาะสมของพื้นที่อำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เพื่อเตรียมการประกาศให้เป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยืน ครอบคลุมบริเวณ น้ำตกร้อน สระมรกต พิพิธภัณฑ์ลูกปัดคลองท่อม และน้ำพุร้อนเค็ม ภายใต้แนวคิด “คลองท่อมเมืองสุขภาพ หรือ Wellness” เนื่องจากอำเภอคลองท่อม มีศักยภาพสูง มีความโดดเด่นทั้งด้านธรรมชาติ ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม โดยเฉพาะที่ตำบลห้วยน้ำขาว ซึ่งเป็นแหล่งน้ำพุร้อนเค็ม เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen มีน้ำพุร้อนเค็มแห่งเดียวของประเทศไทยและเป็น 1 ใน 2 แห่งของ ทั่วโลก โดยอีกหนึ่งแห่งอยู่ในประเทศสาธารณรัฐเชค แถบยุโรปตะวันออก

วางเกณฑ์ใช้คุณค่าสร้างมูลค่า ยกคุณภาพชีวิตชุมชน

นาวาอากาศเอกอธิคุณกล่าวว่า เป้าหมายพัฒนาพื้นที่พิเศษฯ ครั้งนี้ นับเป็นกลไกสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ โดย อพท. ทำหน้าที่เป็นองค์กรในการประสานหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันพัฒนาพื้นที่คลองท่อม เพื่อบริหารจัดการพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยทำคู่ขนานกับชุมชน ให้คนในท้องถิ่นได้รับประโยชน์จากแหล่งท่องเที่ยวใหม่ นอกเหนือจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลัก ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมศักยภาพให้กับชุมชนและเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม พัฒนาความเจริญให้กับชุมชนและพื้นที่ในระยะยาว ปัจจุบัน อพท. ได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลเพื่อกำหนดเป้าหมายของการทำงานให้ชัดเจน ตั้งแต่เรื่องผังเมือง สิ่งแวดล้อม การท่องเที่ยว การรักษาความสงบเรียบร้อย เพื่อบูรณาการการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืน

Advertisement

“จุดเด่นของน้ำพุร้อนเค็ม คือ มีแร่ธาตุสูงที่เป็นประโยชน์ในด้านสุขภาพและการรักษาพยาบาล ซึ่งปัจจุบันสามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ ซึ่งปัจจุบันมีภาคเอกชนเริ่มเห็นประโยชน์และนำน้ำร้อนเค็มขึ้นมาใช้ มีการลงทุนทางธุรกิจไปบ้างแล้ว แต่การลงทุนจากภาครัฐยังไม่เห็นเป็นรูปธรรม รวมทั้งการควบคุมด้านคุณภาพน้ำและปริมาณการใช้น้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุดนำไปสู่การเพิ่มและกระจายรายได้สู่ชุมชนในพื้นที่อย่างทั่วถึงในมิติของแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การประกาศเป็นพื้นที่พิเศษฯ จะทำให้ อพท. เข้ามาทำหน้าที่เป็นหน่วยงานกลางประสานกับหน่วยงานอื่นๆ อาทิ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อดำเนินการเรื่องการใช้น้ำ การใช้ประโยชน์จากที่ดิน การจัดทำผังเมือง ด้านการลงทุนประสานสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พิจารณาจัดทำสิทธิประโยชน์เชิญชวนนักลงทุน หากดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ชุมชนและท้องถิ่นจะได้ประโยชน์จากการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาคน ยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เศรษฐกิจท้องถิ่นเกิดการเติบโต” ผู้อำนวยการ อพท. กล่าว

Advertisement

เล็งเสนอประกาศพื้นที่พิเศษฯ ภายในปี 2567

ภายหลังจากมีการศึกษาศักยภาพและรวบรวมข้อมูลทั้งหมดของพื้นที่แล้ว อพท. จะสรุปผลและนำเสนอคณะกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พิจารณาเห็นชอบประกาศเป็นพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนคลองท่อม จังหวัดกระบี่ ก่อนนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ เห็นชอบ คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งกระบวนการในปี 2567 จากนั้นจะไปสู่การจัดทำแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่พิเศษ อำเภอคลองท่อม ที่จะต้องสอดคล้อมกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล และแผนยุทธศาสตร์ชาติ BCG Model ที่นำคุณค่าทางทรัพยากรที่มีอยู่มายกระดับและสร้างมูลค่าเพิ่ม สามารถดึงเงินลงทุนเข้ามาในพื้นที่ และนำเสนอดังกล่าวต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ในอนาคตภายหลังจากมีการประกาศพื้นที่พิเศษฯ อำเภอคลองท่อมแล้ว อพท. จะใช้องค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้แก่ท้องถิ่นและชุมชน ได้แก่ เกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) เกณฑ์การพัฒนาการท่องเที่ยวโดยชุมชนของประเทศไทย (CBT Thailand) เพื่อยกระดับคลองท่อมเป็น Wellness City เหมือนกับหลายๆ เมืองของประเทศญี่ปุ่น จากนั้นจะเข้าไปยกระดับโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวก การบริหารจัดการ และเชิญชวนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องและมีศักยภาพเข้ามาพัฒนาพื้นที่คลองท่อม ให้เป็นมากกว่าแหล่งท่องเที่ยว แต่เป็นแหล่งฟื้นฟูและดูแลสุขภาพ รวมถึงการนำเสนอการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่แห่งนี้ เข้าสู่เวทีในระดับสากลเพื่อสร้างการยอมรับ และรับรู้ของตลาดนักท่องเที่ยว อาทิ การเสนอชื่อเข้ารรับการรับรองเป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก หรือ TOP 100 (Green Destinations Top 100 Stories)

ปัจจุบันองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอำเภอคลองท่อมมีการตื่นตัว พัฒนาศักยภาพพื้นที่ของตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 อพท. ได้นำ มาตรฐานการจัดการการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (Sustainable Tourism Management Standard : STMS) ไปประเมินโดยมี 2 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ได้แก่ เทศบาลตำบลคลองท่อมใต้ และองค์การบริหารส่วนตำบลคลองท่อมเหนือ ซึ่งพบว่ามีการบริหารจัดการที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน และได้รับใบประการมาตรฐาน STMS ในปีงบประมณ 2565

มั่นใจนักท่องเที่ยว-รายได้ โตก้าวกระโดด

จากสถิติก่อนปี 2562 จังหวัดกระบี่มีนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ โดยเฉลี่ยต่อปีประมาณ 4 ล้านคน และในปี 2562 จังหวัดกระบี่ ทำรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศ คิดเป็นตัวเลขประมาณ 120,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวรวมกว่า 6 ล้านคน แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตัวเลขนักท่องเที่ยวก็ลดลงตามลำดับจากนโยบายการปิดประเทศ และหลังจากปลายปี 2565 ถึงปัจจุบัน นักท่องเที่ยวทะยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดย 5 เดือนแรกปี 2566 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจังหวัดกระบี่ ประมาณ 1.8 ล้านคน สร้างรายได้ประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นจากนักท่องเที่ยวในประเทศ 9,000 ล้านบาท ต่างชาติ 4,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เป็นตลาดสำคัญ ได้แก่ กลุ่มยุโรป และกลุ่มอาหรับ ซึ่งกลุ่มนี้ชื่นชอบโปรแกรมเพื่อดูแลสุขภาพ ดังนั้น หากพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวคลองท่อมให้มีศักยภาพในการรองรับได้ เกิดเป็นเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามายังในพื้นที่คลองท่อมและสามารถเชื่อมโยงไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและเกาะ อาทิ เกาะลันตาน้อย เกาะลันตาใหญ่ และอ่าวนาง ซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวมากขึ้น เพื่อให้เกิดวันพักผ่อนที่เพิ่มขึ้น สร้างรายได้เติบโตแบบก้าวกระโดด เกิดการกระจายรายได้ไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวอื่นมากยิ่งขึ้น

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image